Last updated: 13 มี.ค. 2567 |
“ชาวกระบี่ พร้อมรับการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง)” เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมกราบสักการะ
วันที่ 14 มีนาคม 2567 เวลา 08.45 น. พระเทพวชิรากร รองเจ้าคณะภาค 17 เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวชิรมงคล เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ โดยมี นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรร นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายอัยยรัช บุญส่งสุวรรณ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกระบี่ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.รมน.ภาค 4 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตรผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พลเรือตรีสายชล เล็กเจริญ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธี
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดยกระทรวงวัฒนธรรมอินเดีย สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้ร่วมกันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 สักการบูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2567 เวลา 08.00 – 20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และในส่วนภูมิภาค อัญเชิญไปประดิษฐานในส่วนภูมิภาคใน 3 จังหวัด ให้ประชาชนได้เข้าสักการบูชา ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี และวัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ นั้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนจังหวัดกระบี่ ได้เตรียมจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) ระหว่างวันที่ 15 - 18 มีนาคม 2567 โดยในวันที่ 14 มีนาคม 2567 เวลา 07.00 น.
มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี ไปยังท่าอากาศยานกระบี่ จากนั้นอัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล ต.นาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และในวันที่ 15 มีนาคม 2567 เวลา 07.00 น. จังหวัดกระบี่ ได้จัดริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาจากพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชน บริเวณทางเข้าวัดฯ ประกอบด้วย ขบวนช้าง 10 เชือกสวมเครื่องทรง บนช้างมีคนนั่งถือตราสัญลักษณ์ 72 พรรษา, พระบรมฉายาลักษณ์, ธงชาติไทย, ธงชาติอินเดีย ขบวนธงชาติไทย ธงชาติอินเดีย ธงธรรมจักร ธงฉัพพรรณรังสี ขบวนชุดประจำชาติอินเดีย และชุดประจำชาติไทย (ภาคใต้) ขบวนโคมประทีปดอกบัว ขบวนคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ขบวนเรือพระประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุในมณฑป ขบวนโนราเฉลิมพระเกียรติ ขบวนนางรำพื้นบ้านชุดผ้าพื้นเมือง และขบวนจิตอาสาพระราชทาน โดยเคลื่อนขบวนมายังวัดมหาธาตุวชิรมงคล และอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนมณฑป
จากนั้นเปิดให้ศาสนิกชนเข้ากราบสักการะถึงวันที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 07.00 – 21.00 น. และในทุกๆ ช่วงเย็นเวลา 18.00 – 19.00 น. จะมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์เสริมสิริมงคลให้กับศาสนิกชนที่เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ และในวันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ขึ้นสู่เครื่องบินกองทัพอากาศอินเดีย ออกจากท่าอากาศยานกระบี่ สู่กรุงเดลี สาธารณรัฐอินเดีย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวทิ้งท้ายว่า นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย อย่างยิ่งใหญ่ตระการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดยขอความร่วมมือประชาชนแต่งกายโทนสีขาว สุภาพ เสื้อมีแขน กระโปรง ผ้าถุง หรือกางเกง ไม่สั้น ไม่รัดรูป กระเป๋าผ้า ถุงพลาสติก (ใส่รองเท้า) ดอกไม้ธูปเทียน (นำกลับบ้านไปบูชาได้) ยาติดตัว(ยารักษาโรคประจำตัว) ยาดม ยาลม ยาหม่อง ร่มสำหรับบังแดดกันฝน
เพื่อความสะดวกด้วย////