Last updated: 14 พ.ย. 2567 |
ตัวแทนชาวบ้านบางแก้ว รวมตัวมามหาดไทย ตามผลการสอบนายกเทศมนตรีบางแก้ว หลังเรียกรับสินบน หวั่นคดีไม่คืบ พร้อมตั้งข้อสังเกตรักษาการณ์นายกเทศมนตรีปัจจุบันเป็นพี่เขย แถมยื่นญัตติขอจ่ายขาดเงินสะสมจำนวนหลายโครงการ หวั่นชาวบ้านเสียผลประโยชน์
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) นำกำลังเข้าจับกุม นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว พร้อมด้วยเงินสดของกลาง จำนวน 1,560,650 บาท ตามการรายงานว่าการเรียกรับเงินสินบนเป็นจำนวนร้อยละ 25 ของวงเงินตามสัญญา เพื่อแลกกับหนังสือคู่สัญญา จากผู้ประกอบการติดตั้งจอแอล อี ดี ซึ่งจะต้องมีนายกเทศมนตรี เป็นผู้ลงนาม เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 66
ล่าสุด วันนี้ (14 พ.ย. 67) เวลา 11.00 น. นายชยพล แย้มสังข์ ผู้ร้องในฐานะตัวแทนชาวบ้านเทศบาลเมืองบางแก้ว จ.สมุทรปราการ นำเอกสารเดินทางมาที่กระทรวงมหาดไทย ยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดี กับนายณัฐพงศ์ ในประเด็นดังกล่าวนี้
นายชยพล กล่าวถึงการมาติดตามผลการดำเนินการสอบสวน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 จึงอยากทราบว่ากระบวนการดำเนินการดังกล่าวนี้ อยู่ในขั้นตอนใด เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอบางพลีจังหวัดสมุทรปราการ และสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยงานกลุ่มร้องเรียนแต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการตรวจสอบและบทลงโทษ จึงมองว่า
อาจมีความเป็นไปได้ที่จะยื้อเวลาจนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2568 ก็จะหมดวาระ หากการดำเนินการผลสอบสวน พบว่านายณัฐพงษ์ถูกสั่งปลด ก็จะเข้าข่ายขัดคุณสมบัติไม่ให้มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีได้
นายชยพล บอกด้วยว่า ส่วนตัวนั้นไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับประเด็นนี้ แต่เป็นประชาชนคนในพื้นที่และได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด หากการวินิจฉัยล่าช้า เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายต่อพี่น้องประชาชนชาวบางแก้ว เนื่องจากรักษาการนายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน ได้ยื่นญัตติขอจ่ายขาดเงินสะสมจำนวนหลายโครงการ ทำให้เงินจ่ายขาดเงินสะสมที่เทศบาลเมืองบางแก้วมีอยู่จำนวนหลายพันล้านบาท หมดไปกับจำนวนโครงการที่ขออนุมัติต่อสภาฯ ซึ่งแต่ละโครงการไม่มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนชาวบางแก้ว
อย่างเช่น เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารโดยรักษาการนายกเทศมนตรีได้ยื่นญัตติหลายโครงการเข้าสภาฯ เพื่อขอให้สภาอนุมัติ เช่นโครงการยื่นญัตติจัดซื้อที่ดินจำนวน 3 โครงการ เป็นเงินจำนวนเกือบพันล้านบาท ซึ่งไม่มีรายละเอียดใดๆแจ้งให้ทราบ และไม่แจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการซื้อที่ดิน นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่ารักษาการณ์นายกเทศมนตรี ยังเป็นพี่เขยของนายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้วที่ขณะนี้ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังคงบริหารงานอยู่เบื้องหลังอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้
จึงเรียกร้องขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจในการพิจารณาผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งขึ้นจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่อผลสอบสวน ต้องอยู่กรอบของกฎหมายตามพระราชบัญญัติเทศบาล มาตรา 71/1 ในการสั่งปลดแต่ขณะนี้เวลาล่วงเลยมานานกว่า 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ว่าราชการจังหวัดส่งผลสอบสวนมายังกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่กลับยังเพิกเฉยต่อกรณีดังกล่าว จึงมองว่าอาจเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยทุจริตหรือไม่
ทั้งนี้ นายชยพล ยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มด้วยว่า นักการเมือง ระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาที่เทศบาลบางแก้ว ทั้งในเวลาราชการ และนอกราชการ ทำให้ตนเองไม่สบายใจ อาจจะทำให้เชื่อได้ว่ามีความสนิมสนมเป็นการส่วนตัวหรือไม่ หรือมีส่วนได้ส่วนเสีย จึงทำให้คดีความเกิดความล่าช้าหรือไม่ ที่ผ่านมาตนไปร้องเรียนกับสื่อหลายสำนักแต่เรื่องก็เงียบไม่มีความคืบหน้า
หลังจากนั้น นายชยพล พร้อมชาวบ้าน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือ ร้อง ปปช. เอาผิด มท.1 ละเว้นการปฏิบัติ หลังรับเรื่องร้องทุกข์ ไม่ยอมดำเนินการให้ชัดเจน ในการสอบสวนและเอาผิดด้วย