ศรีสุวรรณ บุก ก.ยุติธรรม ค้านย้ายเปรมชัยไปรักษาตัว รพ. อ้างป่วยโรคประจำตัว หวั่นได้รับอภิสิทธิ์ชน ไม่ต้องนอนคุก

Last updated: 10 ก.ค. 2565  | 

ศรีสุวรรณ บุก ก.ยุติธรรม ค้านย้ายเปรมชัยไปรักษาตัว รพ. อ้างป่วยโรคประจำตัว หวั่นได้รับอภิสิทธิ์ชน ไม่ต้องนอนคุก


ศรีสุวรรณ บุก ก.ยุติธรรม ค้านย้ายเปรมชัยไปรักษาตัว รพ. อ้างป่วยโรคประจำตัว หวั่นได้รับอภิสิทธิ์ชน ไม่ต้องนอนคุก
วันที่ 30 ธ.ค.2564 ที่กระทรวงยุติธรรม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องคัดค้านการส่งตัวนายเปรมชัย กรรณสูต ไปรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือนอกโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ ชี้ต้องไม่มีอภิสิทธิ์ชนใดๆในระบบการลงทัณฑ์นักโทษตามคำพิพากษาของศาล ถ้าคนรวยขอได้ คนจนก็ต้องขอได้เช่นกัน ย้ำต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ ไม่เช่นนั้นจะร้องเอาผิด รมว.ยุติธรรมฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทันที

ทั้งนี้ กรณีที่ภรรยาของนายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกคดีเสือดำ ในเรือนจำอำเภอทองผาภูมิ เดินทางเข้าพบท่านรมว.กระทรวงยุติธรรม และรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสื่อขอความเป็นธรรม ขอให้ส่งนายเปรมชัย ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยอ้างว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ และเกรงว่านายเปรมชัยจะติดโควิด-19 ในเรือนจำ เพราะวิตกว่าเครื่องไม้เครื่องมือและเจ้าหน้าที่ของเรือนจำจะดูแลได้ไม่ดีพอนั้น

การขอย้ายผู้ต้องขังไปรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น ในอดีตเคยใช้เป็นเทคนิควิธีการที่จะช่วยผู้ต้องขังไม่ให้ต้องรับโทษในเรือนจำ เพราะในโรงพยาบาลจะกิน จะนอน เดินเหินสามารถทำได้สะดวก โดยไม่ต้องคอยปฏิบัติระเบียบกฎเกณฑ์ในการอยู่ในเรือนจำที่เข้มงวด ดังนั้น นักโทษที่มีเงิน มีชื่อเสียง ก็มักจะใช้เทคนิควิธีการดังกล่าวกันมากในอดีต แต่ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์มีระบบการรักษาพยาบาลผู้ต้องขังที่เป็นไปตามมาตรฐานสากลแล้ว อีกทั้งยังมีทัณฑสถานโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ การใช้ข้ออ้างและเทคนิคดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว

นอกจากนั้นนายเปรมชัย กรรณสูต เพิ่งถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกในคดีเสือดำ เป็นเวลา 2 ปี 14 เดือน และเพิ่มเข้ารับโทษ ชดใช้กรรมเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ยังไม่ทันข้ามเดือน ข้ามปี ก็มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมกันแล้ว อีกทั้งยังกล่าวอ้างด้อยค่าเครื่องไม้เครื่องมือและเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ ในระบบการดูแลผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์เสียอีก ซึ่งกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรมไม่ควรตกหลุมพรางในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยินยอมให้มีการย้ายตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือนอกโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ได้ สมาคมฯจะนำความไปยื่นร้องต่อศาลทุจริต หรือ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดตามครรลองของกฎหมายทันที

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้