Last updated: 29 ธ.ค. 2566 |
คลิปข่าว
https://youtu.be/hgfS7cIKun4
ข้อพิพาท “ลูกชิ้นปิ้ง น้ำจิ้มผีบอก” ยังไม่จบ พัฒนาชุมชนให้ขายในฐานะ ขาจร แม่ค้าไม่ยอมรับข้อเสนอ ขณะที่ แม่ค้า พ่อค้า ก่อม๊อบชูป้าย ไม่เห็นด้วยกับผู้เสียหาย
นายดำรงค์ มากระจัน พัฒนาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่เทศบาลจังหวัดประจวบฯ
ผู้บริหารตลาดประชารัฐ คนไทยยิ้มได้ และผู้เสียหาย
โดยมีการพูดคุย 2 ประเด็น คือประเด็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น โดยนายดำรงค์ กล่าวว่าตลาดประชารัฐมีที่มาตามนโยบายรัฐบาล ปี 2553 ให้ทุกจังหวัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อที่จะให้นำสินค้ามาจำหน่าย ให้ชุมชนบริหารจัดการกันเอง และแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร 9 คน กำหนดกฏระเบียบ ชี้แจงกฏระเบียบทุกฝ่าย ทุกปี ยืนยันตลาดถูกตัองตาม กฏหมาย ตาม มติ ครม.
ตลาดมี2โซน บริหารโดยเทศบาล และบริหารโดย คณะกรรมการตลาด ค่าเช่า 30 บาทต่อพื้นที่ 3 เมตร ค่าใช้จ่ายที่เก็บจากผู้ค้าจะนำไปให้เทศบาลทั้งหมด
ซึ่งผู้ประกอบการ มี 3 กลุ่ม คือกลุ่มลงทะเบียนหลัก ผู้ประกอบการสำรอง และผู้ประกอบการขาจร และเมื่อ2 ปีก่อน ทางตลาดตัดสิทธิ์ เจ้าของแบรนด์ “ลูกชิ้นปิ้ง น้ำจิ้มผีบอก” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการขาจร บางอาทิตย์ได้ที่
ขายไม่ดี ก็ตอบโต้ผ่านโซเซียล และทำผิดกฏของตลาด 10 ข้อ จึงโดนตัดสิทธิ์การขายทั้ง คน และ สินค้า
ส่วนแม่ค้าซึ่งเป็นผู้ประกอบการหลัก นำลูกชิ้นผีบอก มาขายโดยยังไม่ได้รับการอนุมัติเปลี่ยนสินค้าจากคณะกรรมการ แถมบางครั้งเจ้าของแบรนด์มาแสดงตัวช่วยขาย ทำให้กรรมการ สับสนว่า เป็นผู้ขายเอง จึงยกเลิกบูธของน้ำค้าง ซึ่งทางกรรมการตักเตือนแล้ว เจรจา
ไม่ฟัง แต่กลับนำเอาไปโพส โซเซียล ซึ่งปฏิบัติ ผิดกฏ 4 ข้อ
เบื้องต้นเสนอข้อแก้ไข โดยยืนยันเพิกถอนสิทธิ์การขายบูธเดิม แต่ให้นำสินค้าขายหน้าหน่วยงานราชการ ส่วนพื้นที่เต้นท์สีชมพูตอนนี้เต็ม ให้ขายบูธอื่น โดยเข้าระบบบัญชีเป็นผู้ขายจร หากมีเต้นท์ว่างถาวร จะมีสิทธิ์ขายถาวรได้ อย่างไรก็ตาม อนาคตจะขอขยายพื้นที่เพิ่ม
ขณะที่แม่ค้า และเจ้าของแฟนไซส์ กล่าวว่า ไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะหากเป็น ขาจร อาจจะไม่ได้ขาย เพราะผู้ค้าขาจร มีจำนวนมาก ที่สำคัญ ที่ประชุมมองว่าผู้เสียหายทำผิดกฏอย่างแรง ทั้งๆที่หน่วยงานภาครัฐก็มีส่วนผิดเหมือนกัน ตนอยากขายที่้เดิมตั้งแต่เปิดตลาด โดยไม่มีสัญญา หรือกฏระเบียบให้รับรู้ จึงไม่ยอมรับข้อเสนอ พร้อมเสนอแนะกับสื่อมวลชนให้ทางจังหวัดเปิดพื้นที่หน้าศาลากลางให้พ่อค้าแม่ค้าใหม่ได้ลงทะเบียนขาย และเห็นว่าทุกฝ่ายควรหันหน้าเข้าหากันร่วมพัฒนาจังหวัดมีชื่อเสียง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ
ขณะที่กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ที่มารวมตัวชูป้ายไม่เห็นด้วยกับการกระทำผู้เสียหาย กล่าวว่า ผู่เสียหายทำผิดกฏ เตือนแล้วไม่ฟัง หากกลับมาขายอีก บางคนก็ไม่อยากให้ขาย บางคนก็ยินดีต้อนรับ แต่ให้ปฏิบัติตามกฏระเบียบ