"อัจฉริยะ" เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคล ที่แอบอ้างเป็นอัยการ 3 ข้อหาหนัก

Last updated: 17 ก.ย. 2567  | 

"อัจฉริยะ" เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคล ที่แอบอ้างเป็นอัยการ 3 ข้อหาหนัก

  วันที่ 17 ก.ย. 67 เวลา12.30 น. นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบ พ.ต.ท.บุญยวัฒน์ ศรีเลิศวรกุล รองผกก.สอบสวนสภ.ปากเกร็ด และ ร.ต.อ.อิศราวุฒิ นาคยา รองสว.(สอบสวน) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษแจ้งความดำเนินคดี นายมงคล ปรีสุขเกษม ที่แอบอ้างเป็นอัยการแต่งเครื่องแบบผิดกฎหมายและมาตรา112 ทั้งหมด 3 ข้อหาหนัก

1. กระทำความผิดฐานแต่งเครื่องแบบสีกากีของพนักงานอัยการโดยไม่มีสิทธิ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 146

2. ห้ามมิให้บุคคลใดใช้เครื่องหมายราชการเว้นแต่หน่วยราชการที่กำหนดเครื่องหมายนั้นจะได้

อนุญาต ตามมาตรา 6 และผู้ใดฝ้าฝืนบทบัญญัติมาตรา 6  มีความผิดต้องระวางโทษ ตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482

3. หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112


 นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายมาจากผู้ใหญ่ ให้มาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ นาย มงคล ที่มีการแอบอ้างเป็นพนักงานอัยการและก็สวมเครื่องแบบของพนักงานอัยการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของการแอบอ้างเบื้องสูงในเรื่องของการอ้างว่าได้รับอนุญาตให้มาสอนอบรมกับนักเรียนในพื้นที่ของอําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ดังนั้นหากเราปล่อยให้บุคคลมาทำแบบนี้จะมีการแอบอ้างผู้ใหญ่หลายๆท่าน ไม่ว่าจะเป็น ผบ.ตร. รวมทั้งพนักงานอัยการหลายๆแห่ง ตนเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แล้วก็ไม่ควรให้บุคคลแบบนี้เป็นตัวอย่างของสังคมจึงควรได้รับโทษถูกดําเนินคดี ในสามข้อหาที่เรามีการตรวจพบเจอตามเอกสารของในรายการของ เจาะลึกทั่วไทย ของ design Thailand ของหมาแก่ ข้อหาตามที่เรามีการแจ้งวันนี้ก็คือ 3 ข้อหาก็จะมี

1.แต่งเครื่องแบบสีกากีของพนักงานอัยการโดยไม่มีสิทธิ์

2.ถ้าไม่ให้บุคคลใช้เครื่องหมายราชการเว้นแต่นาฬิกาที่กําหนดเครื่องหมายนั้นจะได้อนุญาต

3.หมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตราร้อยสิบสอง

วันนี้ก็นำตัวบันทึกข้อความผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ได้มีการร้องต่ออธิบดีศาลอาญาตลิ่งชันมาประกอบแล้วก็มีทั้งภาพต่างๆรอบตัวทั้งพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่มีการกล่าวอ้างไม่ว่าจะเป็นท่านปลัดหรือเจ้าหน้าที่ราชการที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาเป็นพยานในคดีนี้ ซึ่งมีพฤติกรรมแอบอ้างแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเป็นอดีตผู้อํานวยการภาค 1มาโดยตลอด แล้วก็มาถึงปัจจุบันนี้ จริงๆ เขาหายไปนาน จนตนคิดว่าเขาเลิกพฤติกรรมนี้แล้ว  แต่มาปรากฏข่าวภายหลังก็พบว่าถึงขนาดไปแอบอ้างเป็นอัยการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะว่าอัยการก็เป็นเครื่องแบบที่ได้รัพระราชทานมา แล้วก็เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม หากปล่อยให้คนแบบนี้อยู่ในสังคมและมีการแอบอ้างเราคงรับกันไม่ได้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้