Last updated: 19 ก.พ. 2568 |
CIVIL เผยทิศทางธุรกิจปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้แตะ 7,000 ล้านบาท พร้อมเพิ่มความสามารถทำกำไร ชูกลยุทธ์ FAST (Family, Attitude, Safety/Sustainability และ Tenacity) ขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมมุ่งเน้นบริหารกระแสเงินสด พัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มศักยภาพการก่อสร้าง สร้างการเติบโตยั่งยืน ด้านภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างแนวโน้มดี การลงทุนภาครัฐ-เอกชนหนุน เพิ่มโอกาสรับงาน ตุน Backlog 24,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ถึงปี 2571
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำบริษัทก่อสร้างครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 2568 บริษัทวางแผนการดำเนินงานด้วยกลยุทธ์ FAST เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ มุ่งเน้นสร้างการเติบโตทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างแข็งแกร่ง ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตแตะ 7,000 ล้านบาท รวมถึงเพิ่มความสามารถการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 6 - 8%
โดยกลยุทธ์ FAST ประกอบด้วย Family, Attitude, Safety/Sustainability และ Tenacity เป็นแนวคิดหลักของการทำงานครอบคลุมทั้งระบบการทำงานที่รวดเร็วและมีคุณภาพ เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ โดยเน้นการสร้างความผูกพันในองค์กร การมีทัศนคติเชิงบวก การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความยั่งยืน การทำงานอย่างมุ่งมั่นและมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ CIVIL ยังคงมุ่งเน้นการบริหารกระแสเงินสดในทุกขั้นตอนดำเนินงาน โดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการโครงการ อาทิ โปรแกรม Power BI และระบบ RPA เพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้าง การติดตามความคืบหน้าของงาน การบริหารงบประมาณ และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้บริษัทสามารถส่งมอบงานได้ตรงตามแผนที่กำหนดไว้และมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น
อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครื่องจักรและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการก่อสร้าง ความปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนให้ความสำคัญกับการดูแลพันธมิตรทางธุรกิจ ให้มีฐานะทางการเงินที่ดี มีความพร้อมในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างปีนี้ คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเข้ารับงานโครงการที่จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัท
“บริษัทเล็งเห็นโอกาสการเติบโตจากโครงการภาครัฐและเอกชนที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการรถไฟฟ้า โครงการถนน โครงการพลังงาน โครงการท่าอากาศยาน ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในการเข้ารับงานขนาดใหญ่และมีความซับซ้อน โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ รวมถึงเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย ประกอบกับกลยุทธ์ FAST ที่เข้ามาส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน เชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้”
นายปิยะดิษฐ์ กล่าวว่า
ทั้งนี้ บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) จากข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2567 จำนวน 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่ลงนามสัญญาแล้ว 14,300 ล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2571