ตม.ตะลุยล่าทรชนข้ามชาติ.. รวบ4แก็งอหังการ์ขนคนเย้ย covid

Last updated: 9 ก.พ. 2564  | 

ตม.ตะลุยล่าทรชนข้ามชาติ.. รวบ4แก็งอหังการ์ขนคนเย้ย covid




กล้าอหังการ์ปลอมตราประทับ..
“รวบแก๊งปลอมรอยตรา ตม.ซ้ำเติมแรงงานต่างด้าวที่ทำถูกกฎหมายช่วงโควิด”
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.๓, พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 และ ว่าที่ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าว ดังนี้
เมื่อประมาณเดือน ธ.ค.63 กก.สส.บก.ตม.3 ได้รับการประสานข้อมูลจาก ตม.จว.นนทบุรี ว่ามีผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าวแจ้งว่าเอกสารขออยู่ต่อ (VISA) และรอยตราประทับของลูกน้องตนน่าจะไม่ใช่ VISA ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองออกให้ จึงขอให้ช่วยตรวจสอบ โดยได้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบพบว่ารอยตราประทับการอนุญาตเป็นรอยตราปลอมที่ทำขึ้น จึงได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลจนกระทั่งทราบว่า กลุ่มดังกล่าวมีการกระทำเป็นขบวนการ โดยมี นายวีรพงษ์ (ปกปิดนามสกุล) อายุ 32 ปี ทำตัวเป็นนายหน้า รับเอกสารและค่าดำเนินการจากคนต่างด้าวในพื้นที่แล้วแอบอ้างว่าสามารถดำเนินการต่อวีซ่าให้คนต่างด้าวได้ โดยได้ค่าจ้างรายละประมาณ 12,000 บาท จึงได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนปรากฏพยานหลักฐานแน่ชัดและได้นำผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย พร้อมรายละเอียดการสืบสวนของ กก.สส.บก.ตม.3 จนกระทั่งสามารถขออนุมัติหมายจับต่อศาล จว.นนทบุรี ตามหมายจับที่ 26/2564 ลงวันที่ 20 ม.ค.64 ในความผิดฐาน “ทำปลอมขึ้นซึ่งดวงตราหรือรอยตราของทบวงการเมือง ขององค์การสาธารณ หรือของเจ้าพนักงาน” และเข้าจับกุมตัว นายวีรพงษ์ฯ โดยขณะจับกุมตัวพบหนังสือเดินทางและเอกสารอื่นๆ อีกด้วย จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสืบสวนเบื้องต้นพบผู้เสียหายกว่า 11 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 132,000 บาท และยังพบว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดอีกบางส่วนที่กำลังหลบหนี ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป

...................................................................................................

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.๓.,พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว บูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันจับกุมขบวนการลับลอนขนแรงงานต่างด้าวตามตะเข็บชายแดนจำนวนหลายราย
คดีแรก เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปกปิดชื่อ-นามสกุลจริง) ว่าจะมีการลับลอบขนแรงงานต่างด้าวเพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทยบริเวณบ้านทับพริก ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง ต่อมาเวลา ๒๑.๓๐น. พบรถต้องสงสัยตามที่สายลับแจ้ง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ขอทำการตรวจค้นรถกระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ โดยมีนายจักรกฤษ อายุ ๓๒ ปี สัญชาติไทย เป็นชาวบ้าน ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว เป็นผู้ขับขี่ และพบชาวกัมพูชานั่งอยู่ในรถและกระบะท้ายอย่างแออัด จำนวนหลายคน จากการตรวจสอบพบว่าชาวกัมพูชาทั้งหมด ไม่มีเอกสารใดๆ แสดงตน โดยทั้งหมดรับสารภาพว่าลักลอบเข้าประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบจุดพิกัดที่แน่ชัด ตั้งใจจะไปทำงานตัดอ้อยในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มีนายจ้างชื่อ เฮียเล็ก (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) เป็นคนว่าจ้าง และมี นายเอี๊ยะ นายหน้าต่างด้าวเถื่อนชาวกัมพูชา เป็นผู้ติดต่อหาคนงานในหมู่บ้านฝั่งประเทศกัมพูชา โดยเสียค่านายหน้าคนละ ๘๐๐ บาท นำมาส่งต่อให้ นายจักรกฤษ (ผู้ถูกจับกุม) เพื่อนำไปส่งให้นายจ้างชาวไทยอีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายจักรกฤษ ฯว่า “ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าว ที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุม ณ ที่ใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.ก.กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ ส่วนชาวกัมพูชาทั้ง ๑๓ คน แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) หลบหนีเข้าและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุม ณ ที่ใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.ก.กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส จว.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่สอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง บูรณาการออกตรวจพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดน ตามนโยบายสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายของรัฐบาล เมื่อ เวลา ๐๐.๕๐น. มาเจ้าหน้าที่ออกตรวจถึงบริเวณป่าไร่อ้อย บ.ป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้พบกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีขาว จอดอยู่บริเวณชายป่าอ้อยมีลักษณะพิรุธต้องสงสัย จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ ต่อมาพบ
ชาวกัมพูชา จำนวน ๔ คน เดินเท้ามาขึ้นกระทะท้ายของรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจสอบ พบนายยอด (ผู้ถูกจับกุม) เป็นผู้ขับขี่ และพบชาวกัมพูชา จำนวน ๔ ราย นั่งอยู่ท้ายกระบะ ทั้งหมดไม่มีเอกสารใดๆ แสดงตน และรับสารภาพว่าลักลอบเข้าประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ตั้งใจจะไปทำงานคัดรองเท้ามือสองในตลาดโรงเกลือ โดยเสียค่านายหน้าคนละ ๕๐๐ บาท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายยอด ว่า “ ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) ที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่วนชาวกัมพูชาทั้ง ๔ ราย แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จว.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อนึ่ง ทั้งสองคดีชุดสืบสวนอยู่ระหว่างขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

.............................................................................................


“ลักลอบขนพืชกระท่อมผง
ทางช่องทางธรรมชาติ
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์”

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่อง การควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มขบวนการขนแรงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนและเป็นการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น
“ลักลอบขนพืชกระท่อมผง ทางช่องทางธรรมชาติ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์”
สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.อ. ภูมิชาย พันธ์กล้า ผกก.ตชด.14, พ.ต.อ.สุชิน กิจกสิกร ผกก.สภ.คลองวาฬ และเจ้าหน้าที่ตารวจ ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกันจับกุม นายเต็ง ซู อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กระท่อมผง) น้าหนักประมาณ 1.5 กก. โดยกล่าวหาว่า
1. มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อมผง) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย
2. เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต (หลบหนีเข้าเมือง)
เหตุเกิดที่บริเวณ ช่องธรรมชาติด้านทิศเหนือจุดตรวจสิงขร (ช่องป่าไม้) ม. 6 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้ ด้วยฝ่ายความมั่นคงชายแดนได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีกลุ่มบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจะลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อส่งมอบยาเสพติดทางช่องทางธรรมชาติ ม.6 บ้านไร่เครา ต.คลองวาฬ อ.เมือง จว.ประจวบฯ จึงได้มีการบูรณาการร่วมกันวางแผนและดักซุ่มบริเวณช่องทางธรรมชาติด้านทิศเหนือของช่องด่านสิงขร ต่อมาประมาณเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าพบบุคคลเพศชายลักษณะคล้ายชาวต่างด้าวสะพายถุงผ้าเดินทางลงมาจากเทือกเขา ตะนาวศรี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบพืชกระท่อมผงบดละเอียด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบหูหิ้ว มัดปากถุง จำนวน 2 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในห่อผ้า และโทรศัพท์มือถือ จานวน 1 เครื่อง จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และขอตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรปรากฏว่าไม่มีแต่อย่างใด จึงได้ทำการควบคุมตัว ผู้ต้องหาเพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำการตรวจคัดกรอง เก็บสารคัดหลั่งของผู้ต้องหาส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผลการตรวจไม่พบเชื้อ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และสืบสวนขยายผลกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป
...................................................................................................
 
 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย      รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี ร่วมแถลงข่าวการจับกุม

1. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรีได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่ สกัดจับแก๊งค์ลักลอบนาพาและขนคนเข้าเมือง บริเวณจุดตรวจผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จว.จันทบุรี โดยสามารถจับกุม นายวุฒิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี สัญชาติไทย ในความผิดฐาน “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุม” และจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จานวน 6 คน ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยรถยนต์ของกลาง เก๋งยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ

2. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรีได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จว.จันทบุรี ทำการสกัดจับ นายนที (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สัญชาติไทย ในความผิดฐาน “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ
แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุม, เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่โดยผิดกฎหมาย” และจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติกัมพูชาจำนวน 6 คน ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ไดรับอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” พร้อมด้วยของกลางรถยนต์กระบะอีซูซุดีแมกซ์ สีขาว ทะเบียนชลบุรี จานวน 1 คัน โดยทั้งสองกรณีมีพยานหลักฐานที่จะต้องดำเนินการสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการต่อไป

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้