บุกตรวจสถานบันเทิงฝืนคำสั่งจังหวัด

บุกตรวจสถานบันเทิงฝืนคำสั่งจังหวัด

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง – ตำรวจสภ.ปลวกแดง บุกตรวจสถานบันเทิงกลางดึก หลังฝืนคำสั่งจังหวัด - แพร่ระบายโควิด พบนักท่องเที่ยวฉี่สีม่วง 18 คน อายุต่ำกว่า 20 ปี

เวลา 22.00 น. วันที่ 23 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา นายชัยพร แพภิรมย์รัตน์ นายอำเภอปลวกแดง จ.ระยอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.ปลวกแดง เข้าตรวจสอบ ร้านมาหาไร ตั้งอยู่ หมู่ 4 ต.ปลวกแดง หลังได้รับการร้องเรียนมีการฝ่าผืนกฎหมาย คำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พบนักเที่ยวทั้งชายและหญิง อยู่ภายในร้านกว่า 300 คน กำลังนั่งดื่มสังสรรค์ ท่ามกลางเสียงเพลง โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัว ห้ามนักเที่ยวออกนอกร้าน พร้อมชี้แจงให้นักเที่ยวเข้าใจในมาตรการ ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ถึงแม้จะเตรียมผ่อนปรน แต่ยังต้องอยู่ในมารตฐานด้านความปลอดภัย อีกทั้งยังต้องเฝ้าระวังเรื่องยาเสพติด

จากการตรวจสอบ พบว่าร้านดังกล่าว ไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบันเทิง เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะ พบฉี่สีม่วง 18 คน อายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 48 คน เบื้องต้น แจ้งข้อหาเปิดสถานบันเทิง โดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดระยอง ห้ามดื่มสุราในร้าน

นายชัยพร เผยว่า หลังจากคลายล็อกปรับเป็นพื้นที่สีฟ้า ในวันที่ 1 พ.ค. ที่จะถึงนี้ ก็จะมีมาตรการคลายล็อกให้สามารถจำหน่ายสุราได้ภายในร้านอาหาร ถึงเวลา 00.00 น. แต่จะต้องเข้มงวดในเรื่องของมาตรการโควิด

สำหรับร้านดังกล่าว มีสภาพแวดล้อมที่มีนักท่องเที่ยว อายุต่ำกว่า 20 ปี และมีจำนวนนักท่องเที่ยวภายในร้านร่วม 300 คน ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิดได้ รวมไปถึงแหล่งมั่วสุมสิ่งเสพติดอีกด้วย ซึ่งต้องตรวจสอบพยานหลักฐาน

ในส่วนของสถานประกอบการแห่งนี้ เดิมเคยเป็นร้านอาหารมาก่อน ก่อนจะเปลี่ยนมาเปิดเป็นลักษณะสถานประกอบการ เปิดให้มีนักท่องเที่ยวมาเต้นบริเวณโต๊ะอาหาร มีแอลกอฮอล์ เปิดเพลง โดยไม่มีใบอนุญาติในการเปิดสถานบริการ มีความผิดตามกฎหมาย โดยได้มีการร้องเรียนจากประชาชนมาก่อนสงกรานต์แล้ว เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตุการณ์เรื่อยมา จนในวันนี้ได้เห็นแล้วว่ามีนักท่องเที่ยวในจำนวนเยอะเข้ามาที่ร้าน จึงนำกำลังเข้ามาตรวจสอบทันที

นอกจากนี้ร้านดังกล่าว ยังมีการจำหน่ายสุราให้กับเยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปี และมีการขัดคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งอาจได้รับโทษทางปกครอง สั่งให้ปิด 5 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดจะพิจารณา มีคำสั่งให้ปิดสถานประกอบการหรือไม่ต่อไป.