Last updated: 11 ก.ย. 2567 |
เมื่อวันที่ 11 กันยายน พนักงานห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำนวนกว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่กระทรวงแรงงาน เรียกร้องสิทธิและเงินชดเชย หลังได้รับผลกระทบจากการปิดตัวของห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง สาขาธนบุรี โดยมีนายมนัส โกศล คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นตัวแทนรับหนังสือ พร้อมด้วยว่าที่ ร.ต.สมศักดิ์ พรหมดำ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.), นายพงศ์เทพ เพชรโสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองแรงงาน กสร. และ น.ส.วัชรี เสมคำ ผู้อำนวยการสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพฯ เขตพื้นที่ 6, ผู้แทนสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมหารือกับกลุ่มลูกจ้าง
ายเตียง แซ่โคว้ เจ้าหน้าที่จัดซื้อภายในห้างตั้วฮั่วเส็งที่ทำงานมา 33 ปี ในฐานะตัวแทนลูกจ้าง กล่าวว่า เนื่องจากถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมโดยการบอกล่วงหน้าเพียง 3 วัน จึงได้ยื่นเรื่องให้ช่วยเหลือ คือ ให้ช่วยเร่งรัดเงินชดเชยการถูกเลิกจ้างและเงินค้างค่าจ้างให้รวดเร็วขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน, ให้ประสานงานและไกล่เกลี่ยเงินเดือนคงค้างจ่ายสูงสุด 15 เดือน ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก, ช่วยเจรจาการเบิกจ่ายเงินล่วงหน้าชดเชยเป็นค่าตกใจ ซึ่งปัจจุบันก็มีการพูดคุยกับทางตัวแทนบริษัท แต่ไม่สามารถหาข้อตกลงได้, และการพูดคุยเรื่องการเลิกจ้างตามกฎหมาย
“วันนี้มาเรียกร้องสิทธิในส่วนที่เราควรจะได้รับ บางคนมีภาระอยู่ข้างหลัง แต่การที่บอกเลิกจ้างเพียงแค่ 3 วัน ทุกคนไม่ทันทั้งตัว หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จะลงมาช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกเราลูกจ้าง ซึ่งอยากให้การเจรจาในครั้งนี้เสร็จสิ้นให้เร็วที่สุดภายใน 1 เดือน จะดีมาก“ นายเตียงกล่าว...
ด้านนายมนัสกล่าวว่า ในฐานะตัวแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มองว่าการที่ผู้ใช้แรงงานมาหารือที่กระทรวงเป็นเรื่องที่ดีมาก
“กระทรวงแรงงานเป็นที่ที่พึ่งพาของคนงาน เป็นที่พึ่งของผู้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบทางกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีตั้งฮั่วเส็ง จะไปที่ไหน สุดท้ายปลายทางก็ต้องอยู่ที่กระทรวงนี้ และทางเราก็พยายามที่จะร่นระยะเวลาและขั้นตอนทางกฎหมายให้ได้เร็วที่สุด” นายมนัสกล่าว...
ขณะที่นางวันทนา ณัฐพูลวัฒน์ ผู้ตรวจการราชการ สปส. กล่าวว่า นายนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการ สปส. ได้สั่งการให้ทีมงานเข้าช่วยเหลือโดยเร็ว ซึ่งการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของลูกจ้างทั้ง 104 คน จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ 1.กลุ่มที่มีสิทธิรับเงินกรณีว่างงาน 54 คน เป็นกลุ่มที่อายุไม่ถึง 55 ปี จะได้รับเงินร้อยละ 50 ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ใน 180 วัน 2.กลุ่มที่อายุครบได้สิทธิเงินชราภาพ คืออายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป จะได้รับเป็นเงินบำเหน็จหรือบำนาญตามเกณฑ์ที่ส่งเงินสมทบมา กรณีรับเงินชราภาพ จำนวน 49 คน แยกออกเป็นเงินบำเหน็จ 1 คน และเงินบำนาญ 48 คน 3.มี 1 คน ที่อาจจะไม่ได้รับเงินว่างงานในรอบนี้ เนื่องจากฐานข้อมูลประกันสังคมมีการทำงาน 2 แห่ง
“ให้รีบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงานกับกรมการจัดหางาน (กกจ.) ก่อน สำหรับคนที่มีสิทธิได้รับเงินว่างงานในวันนี้ ต่อไปจะอยู่ในขั้นตอนการรายงานตัวทุกเดือนๆ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ และเงินก็จะเข้าในระบบที่เรากรอกเอาไว้ว่าจะให้โอนไปทางพร้อมเพย์หรือบัญชีที่ได้ลงทะเบียนไว้ในเว็บไซต์กรมการจัดหางาน หรือผู้ที่ไม่ได้มาร้องเรียนในวันนี้ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่หรือ โทร.1506 และที่สำคัญ ช่วงนี้ที่ว่างงาน ประกันสังคมก็จะดูแลสิทธิต่อไปอีก 6 เดือน ให้การคุ้มครองไม่ว่าจะเป็นเจ็บป่วย, ทุพพลภาพ, คลอดบุตร และเสียชีวิต” นางวันทนากล่าว...
3 ก.ย. 2567