OVER THE TOP อยู่เหนือกฎหมาย

OVER THE TOP อยู่เหนือกฎหมาย

 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (รจภ.) เริ่มฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้เด็กอายุ 10-18 ปี ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. โดยกล่าวอ้างว่าเป็นโครงการศึกษาวิจัยความปลอดภัยของวัคซีนซิโนฟาร์มที่ชื่อว่า "VACC 2 school"

ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีเด็กอายุระหว่าง 10-18 ปีได้รับวัคซีนซิโนฟาร์มกว่า 1 แสนคน                                                       
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ววารสารทางการแพทย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงกว้างได้ตีพิมพ์งานวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนซิโนฟาร์มในประเทศจีน ซึ่งเป็นการวิจัยระยะที่ 2 ในเด็กอายุ 3-17 ปี จำนวน 720 คน ผลการวิจัยพบว่ามีความปลอดภัย แต่ไม่มีข้อมูลต่อการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และยังไม่มีรายงานการวิจัยในเฟสที่3 ออกมา ทำให้องค์การอาหารและยายังไม่สามารถอนุมัติให้ใช้วัคซีนซิโนฟาร์มแก่เด็กที่อายุ 10-18 ปีในประเทศไทย

เหลือเชื่อจริงๆ สำหรับบ้านนี้เมืองนี้ ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สามารถก้าวข้ามกฎหมายอย.ที่ประชาชนทุกคนในประเทศนี้ต้องเคารพและปฏิบัติตาม ชนิดที่ไม่มีหน่วยงานรัฐไหนกล้าออกมาปกป้องเด็กและคัดค้านการกระทำดังกล่าว ท่านเลี่ยงบาลีว่านี่คือการทำวิจัย โดยประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการให้ส่งเด็กนักเรียนมาทดลองด้วยวลีที่ว่า “เราจะได้กลับไปเรียนที่โรงเรียน” ซึ่งผมอยากจะบอกว่านี่คืออภิมหาโคตรงานวิจัยที่ใช้กลุ่มคนทดลองจำนวนมากที่สุดในโลก 108,000 คน บ้าไปแล้ว!!! 
ผมเชื่อว่าในบรรดาเด็กที่เข้ามารับการฉีดซิโนฟาร์ม น่าจะไม่มีรายชื่อลูกหลานของท่านที่ทำงานในราชวิทยาลัยฯเลยสักคน เพราะทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจกลัวลูกหลานจะเป็นอะไรไป และพวกท่านยังมีหน้ามาป้องกันตัวเองล่วงหน้าด้วยการให้ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเซ็นหนังสือยินยอม และกรอกข้อมูลจำนวนมาก บ่งบอกความไม่มั่นใจและกลัวติดคุก กลัวโดนฟ้องร้องที่มีอยู่ ท่านใจร้ายและใจดำมากครับที่ไม่กลัวว่าเด็กลูกหลานคนอื่นจะเป็นอะไรไป หรือว่าตายก็ช่างหัวมัน...ไม่ใช่ลูกเรา

ผมอยากถามไปยัง อย. และปคบ. ว่า นี่คือการกระทำที่ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคหรือไม่ คนที่ผลิตอาหารหรือเครื่องสำอางที่ไม่มีการรับรองจากอย.ออกมา พวกท่านออกมาจับมาปราบมาแถลงข่าวโครม ๆกันบ่อยครั้ง กรณีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำวัคซีนที่ไม่ได้รับการรับรองให้ใช้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีมาใช้ฉีดให้กับเด็กตั้งแต่เข็มแรก ถือเป็นความผิดที่สำเร็จแล้วหรือไม่? ท่านต้องดำเนินการเข้าจับกุมหรือไม่ ?ผมความรู้น้อยช่วยตอบที  
นี่ก็แว่วมาว่าท่านคันไม้คันมืออยากจะเป็นผู้นำเข้ายารักษาโควิด-19 โมโนโคลนอลแอนติบอดี เข้ามาจำหน่ายจ่ายแจกอีก ท่านอ้างว่าท่านคล่องตัวกว่า ท่านเป็นทางเลือกในการรักษาอีก สรุปว่าหน่วยงานอื่นๆของสาธารณสุขไม่มีใครคล่องตัวเท่าท่าน และท่านเป็นสถาบันเพื่องานวิจัย หรือเป็นโรงพยาบาลรักษาโรคทั่วไปกันแน่

ถ้าไม่มีใครขยับตัวห้ามปรามหรือจับกุม ใช้กฎหมายบังคับให้หยุด 

เราก็ต้องยอมรับนะครับ ว่าการอยู่เหนือกฎหมายนั้นมีอยู่จริง