Last updated: 7 พ.ย. 2564 |
สิ่งเล็ก ๆที่เรียกว่า “เลอะ”
ข่าวเล็ก ๆเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 64 เวลาประมาณ 08.22 น. ที่ถนนกำแพงเพชร 7 ใกล้วัดอุทัยธานี ย่านเพชรบุรีตัดใหม่เกิดเหตุรถตำรวจนำรถ V.I.P. วิ่งย้อนศรสวนทางมา และได้เจอกับรถของหญิงสาวที่วิ่งสวนทางมาและไม่ยอมหลบให้กับรถตำรวจและรถ V.I.P.คันนั้น ดังที่ปรากฏในคลิปวีดิโอจากกล้องหน้ารถของหญิงสาวผู้นั้น โดยมีการกล่าวอ้างจากทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าของรถที่วิ่งสวนทางมาว่าถนนดังกล่าวจะเป็นเส้นทางวันเวย์ในเวลา 06.30-09.00 น.(เพื่อแก้ปัญหาการจราจรช่วงไวรัสโควิดระบาด ซึ่งโควิดระบาด การจราจรน่าจะเบาบางลงมากกว่า) และตำรวจก็ไม่ได้นำขบวนใครทั้งนั้น แต่กำลังวิ่งย้อนขึ้นไปเพื่ออำนวยการจราจรปิดทางเข้าให้รถวิ่งเป็นวันเวย์ ยอมรับว่าเป็นความบกพร่องของตำรวจเองที่ไม่ได้นำกรวยมาวางขวางทาง
ผมขออนุญาตนำข้อสรุปจากเฟซบุ๊กของคุณอาร์ท เอกรัฐ ผู้ประกาศข่าวช่องวัน ที่ลงคำกล่าวชี้แจงของท่านผู้กำกับสน.มักกะสัน มาขยายความนะครับ ดังนี้
1.) ถนนเส้นนี้ อยู่ถนนกำแพงเพชรฯ ย่านเพชรบุรีตัดใหม่ ปกติจะมีการกำหนดเป็นวันเวย์ ในช่วงเช้าประมาณ 06.30-09.00น.ยอมรับว่าเป็น "ความผิดของตำรวจจราจร" สังกัด สน.มักกะสัน ที่เป็นเจ้าหน้าที่ท่านใหม่ เพิ่งปฏิบัติงาน และ "ไม่ได้กั้นเลน เพื่อให้วิ่งแบบวันเวย์ จึงเป็นเหตุให้รถวิ่งสวนเข้ามา...
***คำถาม*** หากเป็นความบกพร่องตามที่ท่านกล่าว ต้องมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่รับผิดชอบนะครับ เพราะการหลงลืมแบบนี้อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือแม้แต่การยิงกันก็เกิดได้นะครับ หากต่างฝ่ายต่างไม่ยอม แล้วเกิดมีอาวุธ เรื่องอาจจะร้ายแรงกว่านี้
2.) ในคลิปเหตุการณ์มีรถมอเตอร์ไซค์ 2 คัน ยืนยันเป็นตำรวจสน.มักกะสัน ที่ขับมาในคันแรกนั้น ไม่ใช่รถนำขบวนV.I.P. แต่จะรีบขี่ไปเพื่อจัดการจราจรในเส้นนั้น จะขึ้นไปต้นทางเพื่อที่จะปิดกั้นการจราจร เพราะช่วงเวลาปกติเส้นนั้น เป็นวันเวย์ส่วนมอเตอร์ไซด์คันที่สอง ยืนยันไม่ใช่รถมอเตอร์ไซด์ ของ "สน.มักกะสัน" และไม่ทราบว่าเป็นตำรวจจากสังกัดใดรอการตรวจสอบ
***คำถาม***เจ้าหน้าที่คนแรกที่เป็นของสน.มักกะสัน กำลังขี่ไปปฏิบัติหน้าที่ได้สายมากเลยครับ กำหนดวันเวย์ที่ท่านชี้แจงคือ 06.30-09.00 น. ขณะเกิดเหตุเวลาที่กล้องหน้ารถคือ 08.22 น.ต้องลงโทษเพราะไปทำงานสายมาก ผมเคยไปส่งลูกที่ถนนคอนแวนต์ที่เป็นวันเวย์ออกมาสาทรประมาณ 06.00 -08.00 น. เวลาตีห้ากว่า ๆ ตำรวจจราจรสน.ทุ่งมหาเมฆ ได้มากั้นกรวยกับแบร์ริเออร์ อย่างเข้มแข็งทุกวัน และคนที่ขับรถเส้นทางนั้นก็ทราบและปฏิบัติตามโดยไม่มีใครผิดพลาด แต่เป็นเรื่องแปลกที่คนขับรถเส้นทางกำแพงเพชร7 เป็นประจำกลับอยู่ในเลนซ้ายทั้งหมด เหมือนไม่รู้ว่าสามารถวิ่งได้สองเลน ส่วนตำรวจท่านที่สองที่ไม่อยู่สน.มักกะสันก็ยิ่งแปลก เพราะเขาพยายามพูดกับผู้หญิงเข้าของรถที่สวนมาว่าให้หลบ และบอกว่าเข้าใจเข้าใจ อำนวยจราจร แสดงว่าท่านนี้เป็นตำรวจที่มีน้ำใจมาก แม้อยู่สังกัดอื่นแต่ก็ยังตื่นเช้ามาเพื่อมาช่วยอำนวยการจราจรร่วมกับตำรวจมักกะสัน อย่างนี้ต้องให้รางวัลนะครับขยันเกิน...
3.) ยืนยันไม่ได้นำรถวีไอพี (คันสีขาว ที่กระพริบไฟ) และไม่ทราบว่า รถคันสีขาวที่กระพริบไฟ เป็นรถใคร ผกก.ระบุ จังหวะนั้น น่าจะเป็นเพราะการขับรถตามกันมา หลังเห็นตำรวจแซงออกมามากกว่า และจะสังเกตเห็นในคลิปกล้องหน้ารถว่าจะมีรถคันอื่นตามมาเช่นกัน...
***คำถาม*** ตอนนั้นไม่ทราบว่าเป็นรถใคร แต่ตอนนี้ทราบแล้ว คงต้องเรียกตัวมาจ่ายค่าปรับการเปิดไฟฉุกเฉิน (ผ่าหมาก) ในขณะขับขี่บนท้องถนน เพราะที่จริงแม้แต่ตอนฝนตกหรือเวลาวิ่งผ่านแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรก็ห้ามใช้ เพราะรถที่ตามหลังมาจะงง เรียกมาปรับให้เป็นข่าวหน่อยก็จะดีนะครับ
4.) สุดท้าย ผกก. ฝากขอโทษ "เจ้าของรถ" คันที่เผชิญเหตุ และจะตรวจสอบอย่างละเอียดเพิ่มเติมต่อไป!
***คำถาม***ผมไม่แน่ใจและงงมากกับข้อนี้ เพราะหากถนนเป็นวันเวย์ตามที่ท่านกล่าวอ้าง ผู้หญิงที่ขับรถสวนมาย่อมมีความผิดในการฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานที่บอกให้หลบ ท่านต้องเรียกตัวผู้หญิงท่านนี้มารับทราบข้อกล่าวหาและเสียค่าปรับตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นท่านอาจโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นะครับ (คุณศรีสุวรรณน่าจะจ้องอยู่) ทำไมท่านต้องขอโทษเขาถ้าลูกน้องของท่านทำถูก แต่ดูจากรถสีขาวไฟกระพริบคันนั้นและคันอื่น ๆที่มั่วนิ่มขับตามมา น่าจะรู้ตัวว่าผิดเลยต้องเบี่ยงซ้ายเข้าเลนกันจ้าละหวั่น...
ผมว่าเรื่องนี้เป็น สิ่งเล็ก ๆที่เรียกว่า “เลอะ”โคตร ของอภิสิทธิชนที่ยังมีอยู่จริงในสังคมไทย บางคนทำความผิดแท้ ๆ แต่กลับพูดออกมาหน้าตาเฉยว่า ผมไม่ถือสาหาความ...
โลกโซเชียลด่าผมก็ปล่อยเขาไป ตนไม่ถือโกรธอะไร
โห!!! ท่านเป็นพ่อพระนักบุญของคนไทยจริง ๆ