ถ้าดีลลิซ่ามาเหมือนให้เธอมาตัดริบบิ้น ปล่อยลูกโป่งแล้วนับ 10-9-8-7-6-5-4-3-2-1 …สวัสดีวันปีใหม่พา...

ผมไม่ใช่ “กองแช่ง”

มีคนบางคนหรือสื่อบางสื่อกล่าวหาว่า “กองแช่ง” มีอาการอกจะแตกตายหลังการประกาศจะเปิดประเทศของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่จะถึง ผู้กล่าวหายังบอกต่อว่า “กองแช่ง” หรือฝ่ายที่ไม่ชอบรัฐบาลมีแต่ความอิจฉา กลัวการบริหารประเทศของท่านนายกฯจะประสบความสำเร็จ ทุกอย่างกำลังจะกลับมาดี แต่ “กองแช่ง” พยายามเตะตัดขาทุกวิธีทางเพื่อล้มรัฐบาล “กองแช่ง”จึงเปรียบเสมือนคนไม่ดีในสังคม

ผมเชื่อว่ามีฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลหรือที่ท่านเรียกว่า “กองแช่ง” อยู่จริงในสังคมประเทศไทย ก็เพราะการเมืองบ้านเราได้พัฒนามาสู่ยุคที่มีแบ่งการเมืองออกเป็นสองฝ่าย เมื่อมีฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาล อีกฝ่ายก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน หากฝ่ายที่ค้านรัฐบาลในวันนี้เป็น “กองแช่ง” นั่นก็หมายความว่า ท่านที่เป็น “กองเชียร์” รัฐบาลในวันนี้กับวันเวลาที่ผ่านมาก็ย่อมจะเคยเป็น “กองแช่ง”มาหลายครั้งหลายคราแล้วเช่นกัน บางครั้งพวกท่านยังเคยเป็น “กองกำลัง” บุกยึดทำเนียบรัฐบาล บุกยึดสนามบิน ปิดกั้นไม่ให้คนเข้าคูหาเลือกตั้ง และอื่น ๆก็ทำกันมาแล้ว หรือท่านจะบอกว่าที่พวกท่านทำได้เพราะแม่ท่านบอกว่า “ลูกฉันเป็นคนดี”

อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนกองไหนก็ตาม ล้วนมีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ รักประเทศเหมือนกันทั้งนั้น ต้องการให้โควิดหมดไปจากประเทศนี้ ต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว ผมคนหนึ่งที่สนับสนุนการเปิดประเทศ แต่คัดค้านการเปิดประเทศ ณ เวลานี้ ที่ผมค้านเพราะผมเห็นว่าเรายังไม่พร้อม จำนวนผู้ป่วยสะสมของเรายังสูงมาก จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่หลักหมื่น จำนวนผู้ฉีดวัคซีนยังไม่ได้ตามเป้า และสำคัญที่สุดคือในภาคท่องเที่ยวของเรายังไม่ได้รับความช่วยเหลือฟื้นฟู ร้านอาหาร ร้านขายสินค้า โรงแรม ที่พัก บริการต่าง ๆ รถเช่า รถโดยสาร และอื่น ๆ อีกมากมายที่เขาหยุดและเลิกไปแล้ว แม้ท่านประกาศเปิดประเทศ หลาย ๆ คนก็ไม่มีกำลังพอที่จะกลับมาเปิดต่อ ผมอยากให้ท่านเข้าไปฟื้นฟูกลุ่มธุรกิจในภาคท่องเที่ยวให้เขาเริ่มต้นใหม่ได้ก่อน เปิดบริการกับคนไทยให้ได้ก่อน โดยเอานักท่องเที่ยวไทยนี่แหละเป็นตัวตั้ง พอภาคธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มตั้งลำได้ วัคซีนก็น่าจะฉีดได้ครบเป้าหมาย ททท.ก็พร้อมจะทำประชาสัมพันธ์ การบินไทยก็เริ่มเปิดเที่ยวบินต่างประเทศควบคู่กันไป 

ไอ้ที่การท่องเที่ยวฯท่านออกข่าวว่าดีลลิซ่ามาเคาน์ดาวน์ปีใหม่ที่ภูเก็ต ผมขอปรบมือให้ดัง ๆ ผมโคตรจะเห็นด้วยเลย แต่ที่ท่านบอกว่าจะดึง BLINK ให้เข้ามาดูลิซ่า ผมโคตรจะงง ถ้าจะดึง BLINKเข้ามาท่านต้องดีล BLACKPINK เข้ามาทั้งวงครับ ถ้าดีลลิซ่ามาจะร้องเพลงตัวเองได้สองเพลงเท่านั้นคือ La Lisa และ Money ที่เหลือก็เต้น Cover เพลงคนอื่น และนักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนคลับของลิซ่าจะเรียกตัวเองว่า Lilies ครับ และถ้าท่านมีความสามารถเอกอุในการดีลกับ YG ได้จริง ผมเสนอให้ท่านดีลมาทั้งวงครับ มาเปิดคอนเสิร์ตขายบัตรที่ภูเก็ตไปเลยครับ จัดสักสามรอบห้ารอบ ไม่ต้องเคาน์ดาวน์หรอกครับเพราะผมเชื่อว่าท่านน่าจะดีลไม่ได้ เพราะช่วงปีใหม่สมาชิก BLACKPINK ทุกคนน่าจะรับงานกันหมดแล้ว หากดีลได้สักกลางเดือนมกราคมก็น่าพอใจแล้ว ทำแคมเปญในเชิง ชีวิตใหม่...เริ่มต้นใหม่ กับประเทศไทย กับ BLACKPINK ผมไม่อยากให้ท่านดีลลิซ่ามาเหมือนให้เธอมาตัดริบบิ้น ปล่อยลูกโป่งแล้วนับ 10-9-8-7-6-5-4-3-2-1 …สวัสดีวันปีใหม่พา...ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี ถ้าแค่นั้นเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำครับ ขอย้ำว่าเธอมีมูลค่าการตลาดมากมายมหาศาล ต้องคิดให้กว้างไกลกว่านั้นครับ

แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวก็คือ การที่ประเทศไทยต้องมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงเหลือหลักสิบหลักร้อยหรือศูนย์เลยก็ยิ่งดี ซึ่งจำนวนผู้ป่วยสะสมที่ลดลงและผู้ติดเชื้อใหม่ที่น้อยลงหมายความว่า ความเสี่ยงที่จะมาประเทศไทยลดลง มันเซฟมันปลอดภัย นักท่องเที่ยวก็จะกล้าเดินทางเข้ามามากขึ้น อาหารอร่อยวัฒนธรรมดีทะเลสวยคนไทยใจดี นั้นเราแทบไม่ต้องบรรยายเชิญชวนเลย  เพราะเราคือเป้าหมายอันดับต้น ๆในการเดินทางท่องเที่ยวอยู่แล้ว ททท.แค่บอกว่าเราเปิดประเทศเมื่อไหร่เท่านั้น หากว่าปลอดภัย ใคร ๆก็อยากมาประเทศไทย จริงไหม?

ผมยังยืนยันว่าผมเห็นด้วยกับการเปิดประเทศ แต่ต้องเปิดเมื่อเราพร้อม ผมไม่เคยคิดที่จะเอาประเทศเป็นตัวประกันเพื่อตอบสนองความเชื่อทางการเมืองอย่างแน่นอน บาหลีคือตัวอย่างการเปิดประเทศของอินโดนีเซียที่ไม่มีความพร้อม วันแรกไม่มีเที่ยวบินเข้ามาแม้แต่เที่ยวเดียว เมื่อไม่มีเที่ยวบิน แล้วนักท่องเที่ยวจะว่ายน้ำมาหรือพายเรือมาที่บาหลีได้ไหม? ซึ่งทางการอินโดนีเซียเองก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า Everything is ZERO…No One Comes เพราะสายการบินต้องคอนเฟิร์มมาก่อนแล้วว่าจะมาจอดกี่เที่ยวบิน นักท่องเที่ยวต้องจองโรงแรมมาก่อนและสรุปการเปิดเกาะบาหลีในวันแรก...ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแม้แต่คนเดียว แย่ยิ่งกว่าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่เราแอบหลอกตัวเองว่าสำเร็จ สำเร็จแบบเงียบกริบไปทั้งเกาะ ตกลงว่าที่จะเปิดประเทศในวันที่ 1 พย.นี้ มีสายการบินคอนเฟิร์มมากี่เที่ยวบิน มีคนจองที่พักเท่าไหร่แล้วครับ ช่วยแถลงให้ฟังหน่อยครับ จะได้สบายใจว่าครั้งนี้ไม่เหลว อ้อ...อย่าลืมแพลนให้ท่านนายกฯไปยืนต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาไฟลท์แรกที่สุวรรณภูมิด้วยนะครับ 

ขณะที่เรากำลังง่วนกับการวางแผนในการเปิดประเทศ ก็เกิดข่าวใหญ่แทรกขึ้นมาทำลายบรรยากาศซะอย่างนั้น เมิ่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เด็กชาย มิคาอิว อิวานอฟ สัญชาติรัสเซีย อายุ 7 ขวบ ได้พลัดตกลงไปในธารน้ำพุร้อนที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน น้ำร้อนที่เดือดประมาณ 90องศาเซลเซียส ทำให้ Burn ผิวหนังประมาณ 80%  มองผิวเผินก็อุบัติเหตุธรรมดา แต่ที่มันไม่ธรรมดาและกลายเป็นปัญหาก็คือ แม่ของเด็กบอกว่าตำรวจไม่รับแจ้งความ และไม่มีคนเหลียวแล ช่วยเหลือ เธอจึงร้องขอความช่วยเหลือกลับไปที่รัสเซียจนกลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาหลังเกิดเรื่องประมาณ 10 วัน ผมไม่ทราบว่านักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามาในไทยต้องทำประกันอุบัติเหตุอุบัติภัยต่าง ๆหรือไม่? ถ้ายังไม่มีกฎ เราก็ควรรีบแก้ไขกฎกติกาให้มันมีซะ หรือถ้ามีกติกาให้นักท่องเที่ยวต้องทำทุกคน ทำไมบริษัทประกันภัยไม่เข้าไปช่วยเหลือเรื่องสินไหมทดแทน คนที่เกี่ยวข้องลองหาคำตอบด่วนครับ ละเอียดอ่อนต่อนักท่องเที่ยวมากครับ อย่าให้เหมือนกรณีประกันภัยโควิดเอเชียประกันภัย ที่ “เจอ-จ่าย-จบ” แล้วเจ็บ-จน-จุก ไม่ยอมจ่าย จึงเจอสั่งปิดไป ต่อมาฝ่ายต่าง ๆที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลือเด็กชายชาวรัสเซียเพื่อคลี่คลายเหตุการณ์แล้ว ซึ่งหลายท่านคงทราบรายละเอียดแล้ว และผมอยากจะยกเป็นกรณีศึกษาว่า เรื่องอย่างนี้ไม่ควรเกิดกับนักท่องเที่ยวเลยแม้แต่คนเดียว และไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นในตอนนี้ที่กำลังจะเปิดประเทศ ข่าวนี้แรงและใหญ่มากครับในรัสเซีย เขาก็เข้ามาประเทศเราปีหนึ่งไม่น้อยนะครับ ถ้าเกิดบอยคอต ต่อต้านไม่ยอมมาเที่ยวกัน พัทยาลำบากครับ

ผมขอยืนยันว่าผมไม่ใช่ “กองแช่ง” ที่คอยหลับหูหลับตาค้านทุกเรื่องของรัฐบาลด้วยความอิจฉาริษยา ซึ่งผมมั่นใจว่าผมไม่มีวันรู้สึกเช่นนั้นแน่เพราะผมเป็นคนไทยคนหนึ่ง และผมมีความสุจริตใจที่จะนำเสนอความคิดและมุมมองของผมซึ่งอาจจะผิดหรืออาจจะถูกเพื่อให้เกิดความคิดที่หลากหลาย หากท่านชอบท่านก็หยิบไปใช้ ไม่ชอบก็ปัดทิ้งไป ผมไปห้ามการตัดสินใจใด ๆของท่านไม่ได้ เพราะท่านคือรัฐบาลมีหน้าที่บริหารและมีอำนาจในการตัดสินใจในทุกเรื่องไม่ใช่ผม 

และทุกผลของการกระทำในทุกเรื่อง

คือความรับผิด...และรับชอบของท่าน ไม่ใช่ผม!!!