หรือที่ท่านกล้าเสี่ยง...เพราะคนที่เสี่ยงมันไม่ใช่ท่าน

Last updated: 17 ต.ค. 2564  | 

หรือที่ท่านกล้าเสี่ยง...เพราะคนที่เสี่ยงมันไม่ใช่ท่าน

หรือที่ท่านกล้าเสี่ยง...เพราะคนที่เสี่ยงมันไม่ใช่ท่าน

“ผมรู้ว่าการตัดสินใจแบบนี้มีความเสี่ยง ที่เกือบจะแน่นอนเลยว่า เมื่อเราเริ่มต้นการผ่อนคลายต่างๆ จะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เป็นการชั่วคราว ซึ่งเราต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประเมินดูว่า เราจะรับมือกับสถานการณ์นั้นอย่างไร เราต้องไม่ปล่อยโอกาสนี้ เพราะถ้าเราต้องเสียโอกาส ในช่วงเวลาทอง ของการทำมาหากินไปอีก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ผมคิดว่าประชาชนคงรับมือไม่ไหวอีกต่อไป...”

นี่คือส่วนหนึ่งของถ้อยแถลงของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเมื่อตอนค่ำของวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม 2564 เรื่องการเปิดประเทศให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว ภายใต้เงื่อนไขเป็นพลเมืองของประเทศที่ไทยกำหนดให้เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว แสดงเอกสารผลการตรวจแบบ RT-PCR จากต้นทางก่อนออกเดินทางที่ผลการตรวจเป็นลบ และยินยอมให้ทางการไทยตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR อีกครั้งก่อนเข้าประเทศ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป  โดยเบื้องต้นกำหนดรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำไว้ที่อย่างน้อย 10 ประเทศ ซึ่งรวมประเทศอย่างเช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกาเป็นต้น

วันนี้ประเทศไทยที่มีอันดับการฟื้นตัวจากโควิดในอันดับที่ร้อยกว่า ๆ จากดัชนีนิเคอิ มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 1,720,919 คนในอันดับที่ 24 ของโลก และมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่รายวัน วันละ 10,035 คน (11ต.ค.64)มากเป็นอันดับที่ 10 ของโลก มุ่งมั่นที่จะเชิญพลเมืองจากสหราชอาณาจักร(อังกฤษ) ที่มียอดติดเชื้อสะสม 8,154,306 คนอันดับที่ 4 ของโลก และติดเชื้อรายวันจำนวน 34,574 คนในอันดับที่ 1 ของโลก ใช่ครับท่านอ่านไม่ผิด อังกฤษมียอดคนติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในโลกเป็นอันดับ 1 ผมไม่แปลกใจเลยที่ท่านจะออกตัวว่า "ผมรู้ว่าการตัดสินใจแบบนี้มีความเสี่ยง...”

เราเป็นประเทศที่มีคนติดเชื้อมากเป็นอันดับ 10 ของโลก กำลังเชิญชวนให้คนในประเทศที่ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 1 ของโลกเข้ามาประเทศไทยที่หันไปทางไหนก็เจอแต่มนุษย์หน้ากาก ไชโย ๆๆๆ อภิมหาโค-ตะ-ระ-วิสัยทัศน์ welcome covid to Thailand  ผู้ที่เขียนสคริปท์ให้ท่านแถลงได้ตรวจสอบข้อมูลก่อนเขียนหรือเปล่าครับ เอ...หรือว่าท่านก็ทราบอยู่แล้วแต่ก็จะลองสี่ยงดู เพราะวันนี้ไม่มีอะไรจะเสีย จะหันไปเชิญชวนคนจีนที่เป็นแฟนคลับประเทศไทยก็ลำบากครับ เพราะเขายังไม่อนุญาตให้ออกนอกประเทศ ทั้ง ๆที่ดัชนีการฟื้นตัวของเขาอันดับที่ 1 ของโลกนะครับ เขาไม่กล้าปล่อยให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปสุ่มเสี่ยงแบบไม่อินังขังขอบหรอกครับ

เมื่อประเทศจีนซึ่งเป็นลูกค้านักท่องเที่ยวรายใหญ่ของไทยยังไม่เปิดประเทศให้คนออกมาเที่ยว จึงทำให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์โครงการที่วาดฝันไว้แสนหรู ล้มเหลวไม่เป็นท่า ตั้งแต่ 1 ก.ค. – 3 ก.ย.รวม 65 วัน สามารถจูงใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสะสมจำนวน 26,400 คน นี่ขนาดนับคนไทยที่บินไปธุระ นับคนต่างชาติที่ทำงานในไทยบินเข้าออก หรือนับนักกีฬาโอลิมปิกแลพาราลิมปิกที่ต้องใช้ภูเก็ตเป็น gateway เดินทางเข้าออกแทนสุวรรณภูมิและดอนเมืองรวมด้วยแล้วนะยังได้แค่ 26,400 คน หารออกมาตกวันละ 406 คน นำเงินตราเข้าประเทศได้ 1,634 ล้านบาท แต่คนในรัฐบาลบอกว่าสำเร็จอย่างดียิ่ง แต่แปลกนะ ไม่เห็นมาแถลงความสำเร็จออกทีวีให้ประชาชนได้ชื่นชมผลงานกันบ้าง

โครงการนี้สำเร็จยากครับ เพราะตามข่าวคือคนที่มาภูเก็ตก็เท่ากับมาเยี่ยมชมเมืองร้าง ไร้สีสัน ไร้ผู้คน ไร้ชีวิตชีวา ชายหาดก็เวิ้งว้าง เที่ยวบินก็มีจำกัด ผู้ประกอบการเรายังไม่พร้อมครับ ล้มหายตายจากกันไปไม่น้อย แล้วนี่เรากำลังเชิญชวนคนให้มาประเทศไทยในภาพรวมแบบไม่พร้อมอีกครั้ง ท่านเคยไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ของไทยหรือไม่ ท่านต้องจัดตั้งหน่วยงานพิเศษที่จะเข้าไปแนะนำให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในแหล่งท่องเที่ยว เตรียมความพร้อมในทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไม่เว้นแม้กระทั่งรถเข็นสตรีทฟู้ด รถสามล้อเครื่อง ฯลฯ นี่คือสิ่งที่ท่านต้องทำให้เสร็จก่อนเปิดประเทศนะครับ คุยกับทุกภาคส่วนถึงปัญหาต่าง ๆเพื่อจัดการแก้ไข จัดกลุ่มในการฟื้นฟูธุรกิจร่วมกัน เช่นย่านถนนข้าวสาร จัดประชุมร่วมผู้ประกอบการ โดยรัฐเข้าไปช่วยเหลือเรื่องเงินทุน การยกเว้นภาษีชั่วคราว และอื่นๆ เมื่อทุกสิ่งพร้อม การท่องเที่ยวก็รับลูกทำงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ ถ้าติดต่อลิซ่าได้อย่างที่ผมเคยเสนอแนะก็จะสุดยอดมาก ล่าสุดเธอไปให้สัมภาษณ์ในรายการที่สหรัฐอเมริกาว่าชอบกินแกงพะแนงไก่ เท่านั้นแหละครับแกงพะแนงไก่กลายเป็นอาหารที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกที่ผู้คนอยากลิ้มรสชาติ ไม่แพ้ลูกชิ้นยืนกินที่บุรีรัมย์ทันที

หรือถ้าท่านบอกว่ามีทุนน้อย ก็ลองขอให้ลิซ่าแค่ช่วยโพสต์วิวสวย ๆ เชิญชวนมาเที่ยวประเทศไทยในไอจีของเธอดู จะมีคนเห็นทันที 62 ล้านคนครับ ทำได้แค่นี้ก็ยอดเยี่ยมแล้วครับ เพราะท่าน ๆๆๆทั้งหลายอาจไม่เคยทราบว่า มูลค่าทางการตลาดของลิซ่าหรือ มูลค่าของความเป็น IG Influencer ของลิซ่านั้นมากมายขนาดไหน แค่เธอใส่แหวนรุ่น B Zero1ของ BVLGARI (บุลการี) มูลค่าประมาณ 72,000 บาทใน MV ส่งผลให้แหวนรุ่นนั้นขายได้มากกว่า 2,000,000 วง คูณคร่าว ๆ ยอดขายประมาณ 144,000 ล้านบาท ผมงงใจจริง ๆที่ทางเรานิ่งมาก ไม่คิดวางแผนในเรื่องนี้ ไม่คิดที่จะคุยขอความร่วมมือ การจะเพิ่งพาเด็กสาวชาวไทยอายุยี่สิบสี่ยี่สิบห้าสักคนที่เขามีศักยภาพมากพอที่จะกอบกู้บ้านเมืองได้ ไม่ใช่เรื่องน่าอายนะครับ

อย่างไรก็ตามก่อนการเปิดประเทศ ทุกอย่างต้องพร้อมจริง ๆ อย่าสักแต่ว่าจะประกาศเปิดประเทศเพื่อรักษาหน้า รักษาคำพูด120 วันของตัวเองเลยครับ ผมจะชื่นชมด้วยซ้ำถ้าท่านจะบอกอย่างกล้าหาญว่าไม่สามารถทำตามที่เคยท่านพูดไว้ได้ เพราะหากทำแล้วเราจะแย่ไปกว่าเดิม ขอให้คนไทยอดทนรอ วัคซีนต้องจบ ตัวเลขคนติดเชื้อรายวันต้องลดลงเหลือหลักสิบหลักร้อย ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนต้องพร้อมให้บริการ จึงจะประกาศเปิดประเทศ

เมื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์พร้อม เราก็กำหนดดีเดย์ได้ ไม่ต้องแคร์หรอกครับว่าจะเป็นไฮซีซั่นหรือไม่ ผมขอถามไปยังท่าน ๆๆทั้งหลายว่า เราประกาศในวันที่ 11 ตุลาคม 2564ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 โดยไม่ต้องกักตัว ท่านคิดแบบว่าไอ้คนที่เดินทางท่องเที่ยวมันแพ็คกระเป๋า เตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้วหรือยังไงครับ ชีวิตเขาไม่มีอะไรทำนอกจากจะนั่งรอนอนรอที่จะเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยใช่ไหมครับ ผมเห็นว่าประกาศตรงนี้พยายามจะอิงกับ120 วันและไฮซีซั่น  และการที่บอกว่าจะพิจารณาอีกทีว่าวันที่ 1 ธ.ค.อาจจะให้ดื่มเหล้าในร้านได้ ผมว่าก็ไม่สอดคล้องแล้วครับ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา แต่ร้านอาหารยังห้ามดื่ม บางท่านอาจบอกว่าเราขายความงามธรรมชาติ โบราณสถาน ประเพณีวัฒนธรรม ผมไม่เถียงครับ แต่พวกที่ต้องการมาปาร์ตี้ก็มีไม่น้อย เราไม่ต้อนรับคนพวกนี้หรือครับ

ถ้านักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วมาเจอร้านอาหารเปิดอยู่4-5ร้านบนถนนข้าวสาร ร้านอาหารริมถนนก็มีอยู่บางตาไม่กี่ร้าน ร้านนวดฝ่าเท้าที่มีมากมายก็เหลือ2-3ร้าน เพราะขณะนี้เราเหลือผู้ประกอบการที่ยังสามารถสู้ต่อได้ไม่เกินกว่า 20% ลองคิดดูสิครับว่าภาพจำของแหล่งท่องเที่ยวของเราจะผิดเพี้ยนเปลี่ยนไป แล้วในที่สุดเขาก็จะไม่อยากกลับมาอีกครั้ง ปากต่อปากก็จะเล่าต่อกันไปว่า ไม่เห็นน่าเที่ยวเลยประเทศไทย ผลเสียจะตามมาบานนะครับ ผมคิดแบบใช้เหตุผลประกอบนะครับ ถ้าเป็นผม จะไม่เสี่ยงครับ...

หรือที่ท่านกล้าเสี่ยง...เพราะคนที่เสี่ยงมันไม่ใช่ท่าน

วิเคราะห์ วิจารณ์ นำเสนอ
คอลัมนิสต์
www.thainewsasia.com 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้