Last updated: 10 พ.ย. 2564 |
LGBTQ
ประเทศไทยได้รับการยกย่องจากนานาชาติว่าเป็นประเทศที่ให้การยอมรับในคุณค่าของ LGBTQ หรือกลุ่มคนที่หลากหลายทางเพศมากที่สุดในโลก เพราะไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนเราก็จะพบกลุ่มคนเหล่านี้ในทุกภาคส่วนของสังคม โดยไม่ถูกเหยียด ถูกกีดกัน แบ่งแยกใด ๆ คนเหล่านี้สามารถทำงานในทุก ๆตำแหน่ง บางคนเป็นดารา บางคนเป็นนักข่าว บางคนเป็นนักธุรกิจร้อยล้านพันล้าน หรือแม้แต่เป็นนักการเมืองเราก็ยอมรับ คนต่างชาติที่เป็น LGBTQ ต่างพากันชื่นชมและชื่นชอบ พากันมาท่องเที่ยว หรือทำงานในประเทศไทยเป็นจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี
ข่าวเล็ก ๆที่บางคนอาจไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.64 เวลาประมาณ 19.05 น. บริเวณหน้ามินิมาร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี นายมอส(นามสมมติ) สาวประเภทสอง อายุ 17 ปี กำลังนั่งคุยกับคนรู้จักอยู่ที่หน้าร้านหลังจากมาซื้อของ ก่อนจะมีชายคนหนึ่งที่อ้างตัวเป็นตำรวจในพื้นที่แต่งตัวครึ่งท่อน มือซ้ายถือขวดเบียร์ เดินเข้ามาก่อนจะคว้ามือนายเอ แล้วเรียกให้มานั่งที่พื้น ก่อนที่จะบอกว่า “กูไม่ชอบกะเทย” แล้วก็เตะเข้าที่ใบหน้าเต็มแรง ทำให้นายมอสหงายหลังไปได้รับบาดเจ็บ โดยคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเข้าไปห้ามปราม...
ประเทศไทยสะดุ้งครับ พอได้ยินข่าวนี้ ท่านทราบไหมครับว่า กว่าที่เราจะเรียนรู้ที่จะยอมรับและอยู่ร่วมกันกับกลุ่ม LGBTQ ได้จนได้รับการยกย่องนั้น ต้องใช้เวลามานานหลายสิบปี หากย้อนไปในราวสี่สิบห้าสิบปีก่อนคนไทยยังคงแบ่งแยกเธอฉันกีดกันคนที่มีสภาพเพศไม่ปกติให้ออกจากสังคม สมัยนั้นคนเป็นกระเทยจะไม่มีใครกล้าแต่งตัวเป็นหญิง เพราะจะถูกมองแล้วมองอีก แล้ววันนี้เกียรติภูมิในเรื่องนี้ถูกทำลายโดยบุรุษหนึ่งที่ระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มือซ้ายถือขวดเบียร์ แทนที่จะอุ้มเด็กเหมือนอนุสาวรีย์ตำรวจ รับใช้ประชาชนด้วยการใช้อำนาจหน้าที่บังคับให้ประชาชนที่ไม่ได้ทำความผิดใด ๆให้นั่งลง แล้วเตะด้วยท่าวอลเลย์สุดแรงราวกับโรนัลโด้นักฟุตบอลชื่อดังกำลังยิงประตู อนิจจามันไม่ใช่ลูกฟุตบอล...แต่มันเป็นศีรษะของนายมอส จนเขาหงายหลังตึง ถ้าไม่ได้พลเมืองดีเข้ามาห้ามปราม ตำรวจท่านนี้อาจตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตายได้เลยนะครับ เพราะเชื่อได้ว่าท่านมันมือมันเท้าเตะต่อแน่ การเตะคนที่ศีรษะหลาย ๆที อาจทำให้คนนั้นเสียชีวิตได้ครับ ท่านเก่งกับคนที่อ่อนแอกว่าไม่มีทางสู้แบบนี้ ท่านไม่เหลือความสง่างามที่จะเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แล้วครับ
ด้าน พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ เนื่องจำนงค์ ผกก.สภ.แสนสุข เผยว่าชายคนที่ก่อเหตุเป็นตำรวจของ สภ.แสนสุขจริง ยศดาบตำรวจ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำห้องวิทยุสื่อสาร ก่อนหน้านี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดชลบุรี แต่ถูกส่งตัวกลับมาโดยในวันเกิดเหตุดาบตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เป็นวันเวรพัก ส่วนสาเหตุเบื้องต้นที่ทราบเป็นเรื่องหึงหวง ซึ่งจากนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย โดยให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ตรวจร่างกาย ดำเนินการทางวินัย และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผิดว่าไปตามผิด ไม่ปกป้องอย่างแน่นอน
ท่านผู้กำกับครับคำกล่าวอ้างของตำรวจนายนั้นว่าที่ทำไปเพราะเกิดจากความหึงหวง ก็ว่ากันไปแม้จะทำใจให้เชื่อได้ยากเพราะเขาตะโกนลั่นแสดงความยิ่งใหญ่ว่า “กูไม่ชอบกระเทย” ซึ่งก็ดูไม่สมเหตุสมผลเลยที่เขาจะหึงกระเทยจนต้องลงมือเปิดศึกชิงนางกับกระเทย...ท่านแมนมาก หรือถึงใช่การหึงหวงจริง ทางฝ่ายหญิงที่ถูกกล่าวอ้างเขาก็ออกมาบอกแล้วว่าไม่เคยชอบตำรวจนายนั้น และไม่ได้เป็นอะไรกัน มโนไปเอง แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ภาพมันฟ้องอยู่ทนโท่ว่าทำผิดแน่
เรามาลุ้นกันว่า...การลงโทษและการดำเนินคดีจะเกิดขึ้นไหม?
กดตาม #ฉาด
วิเคราะห์ วิจารณ์ นำเสนอ
คอลัมนิสต์