วัคซีนทางเลื่อน สู่วัคซีนทางเลือก เรามาติดตามหลังวันที่ 7 มิ.ย. ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

วัคซีนทางเลื่อน สู่วัคซีนทางเลือก

เหตุผลสำคัญที่ทางราชวิทยาลัยเป็นตัวแทนนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มคือ เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับรัฐบาลในการกระจายวัคซีนให้กับประชาน เป็นวัคซีนทางเลือกให้กับหน่วยงานเอกชนที่มีกำลังทรัพย์ (ดังนั้นคนจนไม่มีสิทธิ์ คนจนจะมีสิทธิ์ถ้าอาศัยอยู่ในอบจ.ที่มีกำลังทรัพย์ หรือทำงานในองค์กรที่มีกำลังทรัพย์เช่นกัน)

นอกจากรายใหญ่อย่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานีที่ประกาศก้องว่าได้จองซิโนฟาร์มไว้แล้ว 500,000 ถึง 1ล้านโดส ยังมีอีก 62 อบจ. จาก 76 อบจ.ทั่วประเทศขอจองซื้อไปฉีดให้ประชาชนฟรี ด้วยเช่นกัน เพราะได้รับการจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาลไม่เพียงพอ หลายๆจุดฉีดในหลายๆจังหวัดประกาศเลื่อนการฉีดให้กับผู้ที่จองไปแล้วกลายเป็นวัคซีนทางเลื่อน เพราะวัคซีนจำนวน 2 ล้านโดสแรกที่เข้ามาเวลานี้เมื่อหารแบ่งแบบแฟร์ๆด้วยตัวเลข 77 จังหวัด จะได้รับจังหวัดละ 26,000 โดส แต่ในความเป็นจริงมันน้อยกว่านั้น เพราะต้องแบ่งให้กรุงเทพฯและจังหวัดสีแดงเข้มเป็นจำนวนมากตามปริมาณของผู้ติดเชื้อ ตามข่าวเห็นว่าเหลือเฉลี่ยแบ่งให้จังหวัดต่างๆอยู่ที่ 3,600 โดส ซึ่งตรองดูเถิดครับว่า จะฉีดได้กี่คนและฉีดได้กี่วัน...เหมือนบีบให้ไปแต่ละท้องถิ่นพยายามเดินหน้าสู่วัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์มกันอย่างอุตลุด...เรามาติดตามหลังวันที่ 7 มิ.ย. ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

รัฐบาลมีโครงสร้างในการดีลซื้อวัคซีนที่ใหญ่โตกว่าราชวิทยาลัยฯ แต่ไม่สามารถนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มเข้ามาได้ ทั้งๆที่ทุกคนรู้ดีว่าทางผู้ผลิตเขาพร้อมจะขาย มีบริษัทที่พร้อมจะนำเข้า พอให้สิทธิ์ราชวิทยาลัยฯเป็นผู้นำเข้าปุ๊บ(ซึ่งก็ต้องนำเข้าโดยบริษัทเดิมนั่นแหละ) กำหนดการมาถึงไทยออกมาทันที ทุกอย่างมีอยู่แล้ว เตรียมไว้อยู่แล้ว เลยเป็นประเด็นว่าทำไมรัฐบาลถึงไม่ซื้อซิโนฟาร์มเอง มันมีเหตุผลอะไรครับ? นอกจากนี้ยังสั่งห้ามทุกภาคส่วนในการสั่งซื้อวัคซีนเอง แต่มายกเว้นให้ราชวิทยาลัยฯด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นการแบ่งเบาภาระให้รัฐบาลซึ่งไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ เพราะใครมีเงินจ่ายให้กับบริษัทนำเข้าบริษัทนั้นก็สามารถดีลซื้อวัคซีนมาได้ทันทีอยู่แล้ว ดังนั้นพอราชวิทยาลัยฯประกาศนำเข้าซิโนฟาร์ม เอกชนและอบจ.ที่เคยร้องขออนุญาตจากรัฐบาลเพื่อซื้อวัคซีนเอง ก็เฮไปหาราชวิทยาลัยทันทีครับ แว่วๆว่าจำนวนเป้าหมาย 20 ล้านโดสที่จะนำเข้าในปีนี้ น่าจะจองกันหมดแล้วครับ คาดเดาต่อไปได้เลยจะมีการสั่งเข้ามาเพิ่มอีกแน่นอน 

นี่คือการสั่งซื้อวัคซีนโดยอ้อมของเอกชนและอบจ.ผ่านตัวแทน ซึ่งไม่ต่างจากการสั่งซื้อโดยตรงเลย เพราะทางราชวิทยาลัยฯยืนยันมาแล้วว่าไม่เอากำไรแม้แต่บาทเดียว สรุปไอ้ที่ห้ามๆไว้ คือการแสดงละครหรือไม่ มีการออกมาพูดว่ากลัวจะเหลื่อมล้ำด้วย ห่วง อบจ.ที่ไม่มีเงิน ไพเราะ...เสนาะหู ดูดีจริงๆ

หรือนี่...คือแผนการลดรายจ่ายในการสั่งซื้อวัคซีนของรัฐบาลอย่างแยบยลครับ                                                   
ถ้าคิดราคาที่โดสละ 1,000 บาท ก็เท่ากับประหยัดไป 20,000 ล้านบาททันทีครับ                                           
รัฐไม่ต้องจ่าย เอกชนกับอบจ.หาเงินมาจ่ายกันเอง !!!


#ฉาด