Last updated: 11 ส.ค. 2564 |
อย่าทำอย่างนี้เลย ได้ไม่คุ้มเสีย
ชมรมแพทย์ชนบท โดย ศ.ดร.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รณรงค์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ลดการส่งออกวัคซีนที่ผลิตจาก Siam Bioscience ดังนี้
ขณะนี้ Siam Bioscience มีกำลังการผลิตประมาณเดือนละ 10 ล้านโดส หากใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ทำให้ประเทศมีวัคซีน 20-30 ล้านโดสในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้ได้ เราก็มีโอกาสที่จะควบคุมการระบาดและลดความสูญเสียได้ดีขึ้นมาก
การดำเนินการเช่นนี้จะมีผลกระทบต่อประเทศอื่นในภูมิภาคที่จะได้รับวัคซีนจากวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ลดลง แต่ประเทศเหล่านี้ไม่ได้พึ่งพาวัคซีนชนิดนี้เป็นหลักอย่างประเทศไทย การลดลงของวัคซีนชนิดเดียวในวัคซีนหลาย ๆ ชนิด ย่อมมีผลกระทบน้อยกว่าประเทศไทย ที่เมื่อวัคซีนหลักไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เราก็มีวัคซีนอื่นที่จะมาช่วยได้น้อยมาก เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว ผมคิดว่าแม้จะมองในระดับภูมิภาคเรื่องนี้ก็ยังจำเป็นต้องทำอยู่ดี คุณหมอประเสริฐกล่าวทิ้งท้าย
ผมไม่เห็นด้วยครับ !!!
คุณหมอเป็นหมอนะครับ จะคนไทยหรือคนต่างชาติ คุณหมอก็สมควรมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ไม่ว่าจะชนชาติไหน พี่น้องคนไทยผมก็รักและอยากให้ทุกคนปลอดภัย แต่หากเราใช้กฎหมายจำกัดการส่งออกเมื่อไหร่เราจะเป็นผู้ร้ายในสายตาประชาคมโลกทันทีครับ ต่อไปใครเขาจะอยากมาร่วมลงทุนค้าขายกับเรา แทบทุกชาติเขายกย่องเราว่าเป็นชนชาติที่เป็นมิตรที่สุดกำลังจะทำเรื่องที่เลวร้ายที่สุด กลายเป็นชนชาติที่เห็นแก่ตัวที่สุด ผมไม่เห็นด้วยครับ หยุดเถิดครับ แค่เริ่มต้นเป็นข่าว เราก็เสียหายแล้วครับ
หากคุณหมอย้อนกลับไปในรายละเอียดของการสั่งซื้อวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขโดยท่านอนุทินนั้น จะพบว่ามกราคม 64 เซ็นสัญญาสั่งซื้อ 26 ล้านโดส ซึ่ง ณ เวลานั้นประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนสั่งซื้อกันก่อนเราตั้งแต่ปลายปี 63 ต่อเนื่องมาต้นปี 64 ครบถ้วนแล้วประมาณ 114 ล้านโดส ประเทศไทยเพิ่งจะมาเซ็นซื้อเพิ่มในเดือนพฤษภาคม 64 อีก 35 ล้านโดสหลังจากการระบาดรอบล่าสุดที่รุนแรงหนักขึ้น เท่ากับว่าทางเราประเมินสถานการณ์ผิดพลาดเอง สั่งมารอบหลังก็ต้องรอครับ ประเทศที่เขาสั่งก่อนเขาจะยอมให้เรามาแซงได้อย่างไร
ความจริงที่ปรากฏคือกระทรวงสาธารณสุขของไทยประเมินว่าเราจะใช้วัคซีนในปี 2564 เพียงเดือนละ 3 ล้านโดส ทำให้เซ็นสัญญาสั่งซื้อในครั้งแรกไปแค่ 26 ล้านโดส แต่เหตุการณ์พลิก สถานการณ์ไวรัสหนักขึ้น ต้องเร่งฉีดเร็วขึ้น ประกอบกับประสิทธิผลของซิโนแวคมีปัญหาไม่สามารถปัองกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้าได้ ทำให้ต้องสั่งซื้อเพิ่มอีก 35 ล้านโดส และทางคุณอนุทินได้ทำจดหมายขอความอนุเคราะห์ให้ทางแอสตร้าฯพยายามส่งให้เราให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส (เพราะท่านนายกประกาศออกไปแล้วเดี๋ยวเสียหน้า)
จดหมายจากผู้บริหารแอสตร้าเซเนก้าตอบกลับคุณอนุทินว่า จะพยายามเพิ่มจำนวนการผลิตให้ไทยให้ได้เป็นเดือนละประมาณ 5-6 ล้านโดส ซึ่งหากนับจากเดือนสิงหาคมไปจนสิ้นปีเป็นเวลา 5 เดือน เราจะได้รับวัคซีนอีกประมาณ 25-30 ล้านโดส รวมกับที่ส่งมาเมื่อสิ้นสุดเดือนกรกฎาคมจำนวน 11.3 ล้านโดส จะเท่ากับเราจะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าทั้งหมดเมื่อสิ้นสุดปี 2564 จำนวนประมาณ 36.3-41.3 ล้านโดส ซึ่งเมื่อเทียบกับยอดสั่งซื้อทั้งหมด 61 ล้านโดส ถือว่าไม่แย่เลยครับ
เมื่อนำวัคซีนแอสตร้าเซเนก้ามารวมกับวัคซีนไฟเซอร์ที่ประเทศสหรัฐบริจาค 1.5 ล้านโดส ซิโนแวคที่จะสั่งเพิ่มเข้ามาอีก 19 ล้านโดส กับวัคซีนไฟเซอร์ที่ไม่ทิพย์อีก 20 ล้านโดส ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้จนถึงสิ้นปีเราจะมีวัคซีนในประเทศอยู่ประมาณ 65.5 -70 ล้านโดส ยังไม่รวมวัคซีนทางเลือกอื่นๆที่จุฬาภรณ์เอย สภากาชาดเอย โรงพยาบาลเอกชนเอย สั่งซิโนฟาร์ม และโมเดอร์นาเข้ามา ก็น่าจะเพียงพอที่จะใช้สำหรับฉีดให้กับคนไทยไปจนสิ้นปีนี้นะครับ ดีไม่ดีผมว่าจะเหลือเอาด้วย เพราะความสามารถในการฉีดวัคซีนของเราเดือนละ 15 ล้านโดสนี่คือสูงสุดๆเลยนะครับ อีก 5 เดือนก็จะเท่ากับฉีดประมาณ 75 ล้านโดสครับ และรัฐบาลควรดีลวัคซีนอื่น ๆไว้สำรองด้วยเพื่อความไม่ประมาท ต่อจากนั้นก็เป็นแผนของปีต่อไป
แล้วอย่างนี้ท่านจะไปให้รัฐบาลมุบมิบใช้กฎหมายไปยึดวัคซีนเขามาทำไม เหมือนเด็กเล่นขายของเลย ได้ไม่คุ้มเสียครับ เขาฟ้องร้องเราแน่ รวมทั้งเพื่อนบ้านอาเซี่ยนจะพลอยเกลียดเราไปด้วย ท่านไม่ต้องไปกดดันรัฐบาลหรอกครับ เพราะถ้าพวกเขาใช้กฎหมายได้เขาทำไปแล้ว เพราะต้องรักษาหน้าท่านนายกฯที่ประกาศจะฉีดแอสตร้าให้ประชาชนเดือนละ 10 ล้านโดส ท่านอนุทินต้องดิ้นสุดตัวจดหมายไปขอร้องแอสตร้าฯ แต่ก็ไม่สำเร็จ คุณหมอจากกระทรวงสาธารณสุขที่พยายามออกมาอ้างว่าที่เราไม่สามารถสั่งได้เพราะไม่ทราบกำลังการผลิต ก็จริงครับ แต่แถมากเลยครับ ก็ไม่มีประเทศไหนทราบหรอกครับว่า Siam Bioscience จะสามารถผลิตวัคซีนได้เดือนละกี่โดส เพราะเชื้อตั้งต้นมันเกิดจากการเพาะ ไอ้ที่ใช้ได้ในแต่ละครั้งมันไม่แน่นอนครับ ประเทศต่าง ๆเขาสั่งวัคซีนโดยดูจากจำนวนประชากรและอัตราความสามารถในการฉีดวัคซีนของเขาเป็นหลักครับ ไม่ใช่ดูจากจำนวนคนที่ติดเชื้อ และไม่เกี่ยวกับการระบาดหนักหรือไม่ด้วยซ้ำ ประชากรของไทยเรามี 70 ล้านคนเท่าเดิมครับ ไม่ว่าจะสั่งซื้อเมื่อไหร่ก็ต้องได้รวมไม่น้อยกว่า 140 ล้านโดสครับ เรามีความสามารถฉีดได้วันละ 500,000 โดส เท่ากับเดือนละ 15 ล้านโดส ประมาณ 10 เดือนก็จบ สั่งมาสัก 3 ยี่ห้อ ๆ ละ 5 ล้านโดส เดือนหนึ่งก็15 ล้านโดสแค่นี้ละครับ ตรรกะง่าย ๆที่ผู้บริหารของไทยไม่สามารถคำนวณได้ครับ...เหลือเชื่อจริง ๆ
เราต้องยอมรับว่าการที่เราสั่งซื้อวัคซีนน้อยเพราะเกิดจากการคาดการณ์ที่ผิดพลาดและตั้งตนอยู่ในความประมาทของกระทรวงสาธารณสุข ความหยิ่งยโสที่ไม่ยอมเข้ารวมโคแวกซ์กลัวเขาหาว่าจน การดีลซื้อวัคซีนอื่น ๆน้อยมากช้ามากหรือไม่ได้ดีลเลยปล่อยให้เวลาผ่านไป กว่าจะคุยกับเขาคิวก็ยาวไปถึงปีหน้าแล้วครับ เป็นการบริหารงานของคนที่ทำงานไม่เป็น ผิดแล้ว...ผิดอีก
ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะเร่งรีบออกพรก.นิรโทษกรรมมาทำไม !!!