ATK สัญชาติไทย หรือที่เรียกว่า จำเพาะต่อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

“ศิริราชฯไม่สิ้นคนดี”

การสั่งซื้อชุดตรวจ Antigen Test Kit จำนวน 8.5 ล้านชุด วงเงิน 600 ล้านบาท ที่กำลังเป็นวิวาทะระหว่างชมรมแพทย์ชนบทฝ่ายคัดค้านกับองค์การเภสัชกรรมฝ่ายจัดซื้อตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าต่อนายกรัฐมนตรี จนต้องฟันธงว่าชุดตรวจ ATK ที่จะจัดซื้อต้องได้รับการรับรองจาก องค์การอนามัยโลกและองค์การอาหารและยาของไทยเท่านั้น ทำให้ฝ่ายจัดซื้อต้องถอยกรูดพัลวัน แต่ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ทีมบริษัทผู้นำเข้าที่ดูเหมือนว่าเจ้าของบริษัทบังเอิญเคยเรียนวปอ.รุ่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนเก่งของเรา ยังดาหน้าออกมาแถลงว่าไม่มี ATK สำหรับ Home Use ยี่ห้อไหนในโลกที่องค์การอนามัยโลกรับรอง และใน TOR ก็บอกแค่เพียง อ.ย.ของไทยรับรองเท่านั้น เฮ้อ ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลนะครับ...แต่ดูเหมือนท่านนายกฯจะเอียงนิด ๆมาทางชมรมแพทย์ชนบทนะครับ

ผมโคตรสงสัยและมีคำถามอยู่ในใจมาหลายวันว่า ประเทศเราสามารถวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาถึงขั้นที่กำลังจะผลิตออกมาใช้ราวเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งการผลิตวัคซีนนั้นถือว่ายากมาก ไม่ใช่ว่าใครประเทศไหนก็สามารถผลิตได้ เราเก่งกาจขนาดนี้ แต่ทำไมการผลิต ATK ที่ผมมองว่าง่ายกว่าวัคซีนตั้งเยอะถึงไม่มีใครคิดวิจัยและผลิตออกมา

แต่ในที่สุดผมก็พบคำตอบว่า ณ บัดนาว เรากำลังจะมีชุดตรวจ ATK สัญชาติไทย หรือที่เรียกว่า ชุดตรวจแอนติเจนจำเพาะต่อโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราช เป็นชุดตรวจ ATK ที่มีราคาถูก ใช้งานง่ายและรวดเร็ว ผ่านการประเมินประสิทธิภาพจากคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว และได้ทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผ่านบริษัทแอฟฟิโนม จำกัดเพื่อทำการผลิตและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์

รศ.ดร.นิทัศน์ สุขรุ่ง หัวหน้าศูนย์การออกแบบนวัตกรรมชีวการแพทย์ ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า จุดเด่นของชุดตรวจ Antigen Test Kit ของศิริราชฯ เป็นชุดตรวจแบบง่ายและรวดเร็ว ด้วยหลักการอิมมูโนโครมาโตกราฟี เพื่อตรวจหาโปรตีนที่จำเพาะของเชื้อไวรัสในตัวอย่างหลังโพรงจมูกจากผู้ป่วย ให้ผลการทดสอบที่ถูกต้องแม่นยำ มีความไว 96% ความจำเพาะ 100% ใช้เวลาทดสอบเพียง 15 นาที นอกจากนี้ น้ำยาในชุดตรวจนี้สามารถฆ่าไวรัสได้ภายใน 1 นาที ทำให้ไม่ส่งผลต่อการกระจายของเชื้อโรคเมื่อทำการตรวจในภาคสนาม

เดือน ก.ค.ที่ผ่านมามีกำลังการผลิต 100,000 ชุด และในเดือน ส.ค.จะสามารถเพิ่มการผลิตเป็น 200,000 ชุด ซึ่งการผลิตในล็อตแรกจะเป็นชุดตรวจสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (Professional Use) เพื่อให้โรงพยาบาลขนาดเล็ก หรือโรงพยาบาลในชนบท ใช้ตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุกก่อน ส่วนชุดตรวจสำหรับประชาชนทั่วไป (Home Use) อยู่ระหว่างการปรับรูปแบบการใช้งานให้ง่ายและสะดวก กำหนดราคาขายที่ประชาชนเข้าถึงได้ คาดว่าจะไม่เกินชุดละ 250-300 บาท ในระยะเวลาต่อไป

เหลือเชื่อมากเลยครับที่ไม่ค่อยเห็นข่าวเรื่องนี้  ผมขอตำหนิกุนซือที่ปรึกษาทั้งหลายที่ไม่เคยแนะนำท่านนายกรัฐมนตรี หรือรมว.สาธารณสุข ให้ออกมาพูดมาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ศิริราชฯของเราไม่สิ้นคนดีมีฝีมือ สามารถวิจัยและพัฒนาชุดตรวจ ATK จนเป็นผลสำเร็จ แต่กลับไม่มีการทุ่มงบประมาณลงไปสนับสนุนเพื่อต่อยอดให้เห็นเป็นรูปธรรม หากพวกท่านเอาเวลาที่ออกมาแถลงเพื่อการเอาชนะคะคานที่จะสั่งซื้อ ATK อย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ตอนนี้ มาวางแผนขยายโรงงานการผลิต ขยายไลน์การผลิต เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศดีไหมครับ ผมเชื่อเลยว่าหากท่านลงมือ ท่านจะได้รับเสียงปรบมือ และคำชื่นชมจากประชาชนคนไทยทั้งประเทศแน่นอน และดีไม่ดีหากท่านมีวิสัยทัศน์เราอาจผลิตออกมาเพื่อจำหน่ายไปต่างประเทศก็ยังได้ 

พอเถอะครับกับการทะเลาะกันเรื่องจัดซื้อ ATK จากประเทศจีน ผมขอเสนออย่างนี้ก็แล้วกันว่า ลดจำนวนสั่งซื้อลงมาที่จำนวนเพียงพอเพื่อทำการทดลองใช้ก่อนดีไหมครับ แล้วลองมาเปรียบเทียบกับชุดตรวจATKของศิริราชดูว่าใครดีกว่ากัน หากของจีนดีก็สั่งต่อให้สอดคล้องกับกำลังการผลิตของศิริราช (ซึ่งผมหวังว่ารัฐจะเข้ามาโอบอุ้มให้มีกำลังการผลิตที่สูง) จนในที่สุดเมื่อกำลังการผลิตของเรามากเพียงพอเราก็หยุดซื้อของจีน เท่านั้นเองครับ ถอยคนละก้าว ทางชมรมแพทย์ชนบทก็ควรถอยนะครับ ท่านยังไม่ได้ลองใช้ของเขาดู มันอาจจะใช้ได้ก็ได้ครับ หากไม่มั่นใจก็ทำการทดสอบก่อนใช้จริง ใช้ควบคู่ไปกับของศิริราชฯนี่แหละครับ ท่านเป็นคนใช้ ท่านก็จะทราบแหละว่าอันไหนดีอันไหนไม่ดี เราเสียเวลาทะเลาะกันมากไปแล้วครับ ยังมีเรื่องอื่นอีกมากมายที่สำคัญกำลังรอให้พวกท่านไปทำนะครับ

ขึ้นต้นผมบอกว่า “ศิริราชฯไม่สิ้นคนดี”                                               

ตอนจบผมก็เชื่อว่า “ชมรมแพทย์ชนบทก็ไม่สิ้นคนดี” เหมือนกันครับ