Last updated: 7 ก.ย. 2564 |
ธรรมาภิบาลนะมีไหม?
BTS รถไฟฟ้าเจ้าแรกของประเทศไทยที่มีการเปิดให้บริการมากว่า 20 ปี ได้ประกาศยกเลิกจำหน่ายและเติมเที่ยวการเดินทางสำหรับบัตรโดยสารรายเดือนออกไป เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ดังนี้
“บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งให้ทราบว่าจะสิ้นสุดการจำหน่ายโปรโมชั่นเที่ยวเดินทาง 30 วัน ทุกประเภท ผู้โดยสารสามารถซื้อ / เติมเที่ยวเดินทางได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 เป็นวันสุดท้าย ทั้งนี้บัตรโดยสารที่มีเที่ยวเดินทางคงเหลือ สามารถใช้เดินทางได้จนกว่าเที่ยวเดินทางจะหมด หรือเที่ยวเดินทางหมดอายุการใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง ”
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ได้ให้เหตุผลในการประกาศยกเลิกบัตรโดยสารรายเดือนไว้ ดังนี้
“ปัจจุบันพฤติกรรมการเดินทางของผู้โดยสารมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและมีรูปแบบการเดินทางที่หลากหลายขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ผู้โดยสารไม่สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้นานแบบเมื่อก่อน บริษัทฯ ได้พิจารณาและเห็นว่า ตั๋วเที่ยว 30 วันอาจจะไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้อีกต่อไปจึงจะยุติการทำโปรโมชั่นดังกล่าว
และจากข่าวที่ว่านี่คือการกดดันรัฐบาลเรื่องการต่ออายุสัมปทาน ขอบอกว่าไม่เกี่ยวกันเลยเราไม่ได้นึกถึงเรื่องนั้นเลย ไม่ใช่การกดดันรัฐบาล เป็นการดำเนินงานตามปกติของเรา เป็นเรื่องของโปรโมชันที่ทำมามากกว่า 10 ปีแล้ว มีทำก็ต้องมีเลิก…ถ้ามีอะไรที่เราคิดว่าเราทำได้ และผู้โดยสารก็ได้ประโยชน์ วิน-วินทั้งคู่ เราก็ยินดีจะทำ ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะตอบว่าฟีดแบ็ก (ผลตอบรับ) เป็นอย่างไร แต่ขอรับฟังแล้วมาดูกันว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง "
ได้อ่านข่าวแล้วรู้สึกเศร้ากับประชาชนพลเมืองประเทศนี้จริง ๆ เหตุผลที่ว่าแพคเก็จรายเดือนไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ เลยขอยกเลิกมันซะ ทั้ง ๆ ที่ท่านก็รู้อยู่แก่ใจว่า ผู้โดยสารที่ใช้แพคเก็จรายเดือนคือผู้โดยสารที่ต้องเดินทางเป็นประจำและมีรายได้จำกัดหรือไม่มีเลย เช่นนักเรียน นักศึกษา พนักงานออฟฟิศที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว พวกเขาเหล่านี้ต้องหยุดใช้บริการแพคเก็จรายเดือนชั่วคราว เพราะปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องเรียนออนไลน์ และทำงานอยู่ที่บ้าน ซึ่งอาจมีจำนวนเที่ยวการเดินทางที่ไม่ต่อเนื่อง จึงไม่สามารถซื้อแพคเก็จรายเดือนได้ในขณะนี้ เมื่อการระบาดสิ้นสุดลงพวกเขาก็จะกลับไปใช้บริการแพคเก็จรายเดือนเพื่อใช้เดินทางไปทำงาน ไปโรงเรียน และไปมหาวิทยาลัยอีกครั้ง แต่พอท่านประกาศเช่นนี้ โอกาสที่พวกเขาเหล่านั้นจะได้ใช้บริการสาธารณะในราคาประหยัดกำลังจะจบลงแล้ว ท่านผู้บริหารบีทีเอส ท่านไม่แคร์ลูกค้าที่เป็นเก่าขาประจำเหล่านี้เลยหรือครับ เขาเหล่านี้เคยนำเงินสดจ่ายให้ท่านก่อนล่วงหน้าในทุก ๆเดือนเพื่อแลกกับส่วนลดจำนวนหนึ่งที่ท่านเมตตาให้ ซึ่งท่านไม่เคยเสียเปรียบเลย เพราะท่านได้เงินสดไปหมุนเวียนก่อนโดยไม่เสียดอกเบี้ยแม้แต่สลึงเดียว แถมยังได้กำไรจากการควบคุมการใช้บัตรด้วยเวลา 30 วัน หากเที่ยวยังเหลือก็ตัดทิ้ง นักเรียนนักศึกษาที่ถูกตัดบัตรทิ้งเมื่อครบกำหนดเพราะเหตุปิดเทอมมีจำนวนไม่น้อยครับ ลูกสาวผมเป็นหนึ่งในนั้นปีหนึ่งโดนตัดทิ้งสองครั้งสองคราเพราะปิดเทอม
ท่านอ้างว่าเป็นโปรโมชันที่ทำมานานกว่า 10 ปี ถึงเวลาต้องเลิกก็ต้องเลิก เหมือนท่านจะสารภาพออกมาเองนะครับว่าเป็นโปรโมชันที่ทำมานานกว่า 10 ปี ไม่มีหรอกครับยาวนานอย่างนั้นแล้วยังดันทุรังจะเรียกว่าโปรโมชัน แท้ที่จริงแพคเกจรายเดือนนี่มันไม่ใช่โปรโมชัน แต่เป็นอัตราค่าใช้บริการพิเศษ หรือพรีเพดนั่นเอง จ่ายก่อนนั่งที่หลัง ซึ่งควรมีอยู่อย่างถาวรในบริการสาธารณะเช่นรถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่แล้ว อยากให้ท่านผู้บริหารบีทีเอสลองทบทวนตรงนี้ดี ๆอีกครั้ง ผู้บริหารที่ดีควรมีพรหมวิหาร4 คือมีเมตตา,กรุณา,มุทิตา และอุเบกขา หลักการนี้เมื่อปฏิบัติจะก่อให้เกิดความประเสริฐต่อตนเองและผู้อื่น ออกประกาศยกเลิกประกาศเก่าไม่ใช่เรื่องน่าอาย ท่านนายกฯประยุทธยังยกเลิกมติครม.เรื่อง ATK ได้เลยครับ
ขณะนี้เรื่องการยกเลิกแพคเกจรายเดือนของบีทีเอสกำลังเป็นไวรัลอย่างรวดเร็วในโลกอินเตอร์เน็ตนะครับ และผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับท่าน เพราะนี่คือการซ้ำเติมสถานการณ์โควิด-19 ซ้ำเติมค่าครองชีพที่ของประชาชน เป็นเรื่องด้านลบมาก ๆต่อบีทีเอส อาจบานปลายกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว โดยเฉพาะการคัดค้านของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและองค์กรผู้บริโภค 198 องค์กรที่ออกมารณรงค์ให้ประชาชนเลิกสนับสนุนบีทีเอส และคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานในอนาคตของท่าน อย่ามองข้ามพลังประชาชนพลเมืองไทยนะครับ
มีคำถามจากประชาชนพลเมืองไทยมายังบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ว่า
“ธรรมาภิบาลนะมีไหม?”